SCB 10X ร่วมลงทุนยูนิคอร์นระดับโลก 'Fireblocks' ดูแลความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล
SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนในยูนิคอร์นระดับโลก "Fireblocks"แพลตฟอร์มผู้ให้บริการเทคโนโลยีสำหรับการดูแลความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลเตรียมพร้อมปูทางสู่โลกการเงินแห่งอนาคต
เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีในเครือธนาคารไทยพาณิชย์เดินหน้าภารกิจ Moonshot Mission (มูนช็อต มิชชั่น) มุ่งลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ประกาศเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนหลักในการระดมทุนรอบ Series D ของ Fireblocks แพลตฟอร์มผู้ให้บริการเทคโนโลยีสำหรับการดูแลความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมกับกลุ่มผู้ลงทุนชั้นนำ ได้แก่ Sequoia Capital, Stripes, Spark Capital, Coatue และ DRW โดย SCB 10X นับเป็นบริษัทในเครือธนาคารรายที่ 3 ที่ร่วมลงทุนใน Fireblocks ต่อจาก BNY Mellon และ SVB Capital โดยการระดมทุนในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Fireblocks มีมูลค่าบริษัท (Valuation) พุ่งทะยานสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเพิ่มเงินทุนใหม่ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความโดดเด่นของ Fireblocks ในการเป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์กรใหม่ๆ สามารถเข้ามาในสนามของสินทรัพย์ดิจิทัลได้มากขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยีของ Fireblocks จะช่วยในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ White Label สำหรับลูกค้าสถาบันที่ต้องการให้บริการดูแลและรับฝากสินทรัพย์ประเภทคริปโตเคอร์เรนซี (Crypto Custody) โดยที่ลูกค้าสถาบันสามารถให้บริการดูแลและรับฝากสินทรัพย์แก่ลูกค้าของตนได้โดยตรงโดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม
นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า Fireblocks นับเป็นตัวเลือกที่เป็นที่ต้องการขององค์กรชั้นนำมากมาย ทั้งองค์กรขนาดใหญ่ และองค์กรขนาดเล็ก เนื่องจากแพลตฟอร์มของ Fireblocks จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถนำเสนอโซลูชันการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำหนดเองได้ แทนที่จะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าพวกเขากำลัง outsource การดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งเป็นความสามารถที่สำคัญของการดำเนินธุรกิจประเภทนี้
SCB 10X ในฐานะหนึ่งในผู้ลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้าของ Fireblocks เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า Fireblocks มีความเชี่ยวชาญในระดับโลกในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ยากจะหาใครเทียบได้ในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในด้านเครือข่ายการถ่ายโอนสินทรัพย์ดิจิทัล (Asset Transfer Network) และโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลและรับฝากสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซี (Crypto Custody Infrastructure) เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการลงทุนในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือในการนำเอาองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและโซลูชันระดับโลกของ Fireblocks มาใช้ในการพัฒนาและต่อยอดเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับเทรนด์การให้บริการทางการเงินดิจิทัลแห่งโลกอนาคต
Fireblocks ในฐานะผู้บุกเบิกเทคโนโลยี MPC สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือซึ่งเป็นแกนหลักสำคัญของแพลตฟอร์มที่ถูกนำมาใช้กับองค์กรมากกว่า 500 แห่งทั่วโลก และช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยมากกว่า 1 ล้านล้านในสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานของ Fireblocks นับเป็นตัวขับเคลื่อนพื้นฐานที่สำคัญในการเติบโต และถูกนำมาปรับใช้ทั้งในสถาบันการเงินรูปแบบใหม่และดั้งเดิม ปัจจุบัน Fireblocks ขยายบริการไปทั่วโลก รองรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่ง นอกเหนือจากการให้บริการแก่ตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ (Crypto-Native Exchanges), Lending Desks, Hedge Funds, OTC Desks และผู้ดูแลสภาพคล่องของตลาด (Market Maker) เช่น Revolut, BlockFi, Celsius, PrimeTrust, Galaxy Digital, Genesis Trading, Crypto.com และ eToro เป็นต้น
Fireblocks ก่อตั้งในปี 2562 โดยระดมทุนได้กว่า 489 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก Venture Capital (VCs) ชั้นนำระดับโลกด้านฟินเทค, บล็อกเชน และความปลอดภัยทางไซเบอร์ อาทิ Cyberstarts, Eight Roads, Tenaya Capital, Swisscom, Paradigm, Ribbit Capital และ Coatue
มร. ไมเคิล ชอลอฟ (Michael Shaulov) CEO Fireblocks กล่าวว่า เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะสามารถขยายบริษัทและโครงสร้างพื้นฐานผ่านการระดมทุนครั้งใหม่นี้ การเติบโตที่เราเห็นมาจนถึงปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในทุกช่วงของบริษัท ด้วยเทคโนโลยีของเราที่มีความโดดเด่นนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และความสำเร็จของเรานั้นได้ปรากฏอย่างชัดเจน เมื่อมองไปข้างหน้าสู่การเติบโตของอุตสาหกรรม เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจด้านการดูแลความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลมีศักยภาพมหาศาล เราพร้อมจะเติบโตและเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับสถาบันการเงิน และองค์กรอื่นๆ ที่ต้องการจะเข้าสู่แวดวงนี้ได้อย่างปลอดภัยและราบรื่นมากยิ่งขึ้น