บัญชีกลางยอมรับเบิกจ่ายงบลงทุนปีนี้ต่ำเป้า

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยผลการเบิกจ่ายงบประมาณ 2564 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ ถึง วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณรวมได้ 2.58 ล้านล้านบาท หรือ 78.58% ของวงเงินงบประมาณรวม 3.28 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น งบประจำเบิกจ่ายได้จำนวน 2.25 ล้านล้านบาท หรือ 85% ของวงเงินรวม 2.64 ล้านล้านบาท และ งบลงทุนเบิกจ่ายได้ 3.36 แสนล้านบาท หรือ 52.04% ของวงเงินรวม 6.47 แสนล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อรวมกับการเบิกจ่ายงบประมาณเหลื่อมปี ผลการเบิกจ่ายงบประมาณรวมจะอยู่ที่ 78.62%

สำหรับกระทรวงและหน่วยงานที่มีผลการเบิกจ่ายได้สูงสุด 5 อันดับแรก คือ กระทรวงแรงงาน 98.48% หน่วยงานอิสระภาครัฐ 98.10% หน่วยงานของศาล 97.36% กระทรวงการคลัง 94.96% และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 90.08% ส่วนหน่วยงานที่เบิกจ่ายได้ต่ำสุด 5 อันดับ คือ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา 65.36% หน่วยงานรัฐสภา 65.93% กระทรวงคมนาคม 66.11% กระทรวงพาณิชย์ 66.78% และกระทรวงวัฒนธรรม 68.12%

เขากล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ผลการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนในปีงงประมาณนี้ อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเหลือระยะเวลาการเบิกจ่ายเพียง 1 เดือนกว่าๆ เท่านั้น สาเหตุผลักเป็นเพราะสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ทุกกิจกรรมเศรษฐกิจชะลอ และ การล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้มในหลายจังหวัด รวมถึง การปิดแคมป์การก่อสร้างต่างๆ ก็กระทบการก่อสร้างและการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ทางกรมบัญชีกลางได้ออกมาตรการผ่อนปรนการเบิกจ่ายไปหลายมาตรการ และ รวมถึง การออกประกาศยกเว้นค่าปรับแก่คู่สัญญาการลงทุนกับภาครัฐกรณีที่รัฐสั่งปิดแคมป์คนงานการก่อสร้างต่างๆ ก็เชื่อว่า จะบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการได้บ้าง แต่

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้รับเป้าหมายให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในปีงบ 2564 ซึ่งกำหนดให้เบิกจ่ายงบประมาณรวมไว้ที่ 95% ก็เชื่อว่า จะสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย ส่วนงบลงทุนตั้งเป้าหมายไว้ที่ 82% ในส่วนนี้ คาดว่า จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

“ถ้างบลงทุนใดที่คาดว่า จะไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทัน ก็ให้เร่งทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันไว้ เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายได้ในปีงบประมาณหน้า ก็เชื่อว่า งบส่วนนี้ จะมีจำนวนมากพอสมควร”

เขายังกล่าวถึงการดำเนินงานของทุนหมุนเวียนที่มีอยู่ประมาณ 99 ทุนว่า กรมบัญชีกลางได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีผลการดำเนินงานในระดับที่ดี มีเพียงบางกองทุนที่กรมฯต้องให้นโยบายเร่งรัดการเบิกจ่าย ซึ่งก็เชื่อว่า จะสามารถดำเนินการให้อยู่ในแผนได้ ดังนั้น ในปีงบประมาณนี้ จะไม่มีกองทุนใดถูกยุบเลิกกิจการ