สายกินพร้อม! รัฐเตรียมคลายล็อกดาวน์ คืนลมหายให้ธุรกิจร้านอาหาร

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขรับทราบข้อเสนอและเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 27 สิงหาคมนี้ โดยให้นั่งรับประทานในร้านหรือไดอินได้ 50% ของพื้นที่ความจุ โดยกรมอนามัยได้จัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อความปลอดภัยจากโรคโควิด 3 ส่วน ได้แก่ 1.การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมไม่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี 

2.พนักงานต้องปลอดโรค และต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม  ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือยังได้ไม่ครบ 2 เข็ม จะต้องตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK ทุก 3-7 วัน ตามาตรการป้องกันตนเองในการให้บริการลูกค้า และ 3.ลูกค้าต้องปลอดจากเชื้อไวรัส โดยแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือผู้ที่เคยติดเชื้อต้องหายแล้ว 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน รวมถึงต้องมีผลตรวจ ATK รับรองว่าไม่ติดเชื้อ เป็นต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และพนักงาน   

นอกจากนี้ หากร้านผ่านการประเมินจากมาตรการดังกล่าว จะได้มีสัญลักษณ์ไทย สต๊อป โควิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วนที่เข้ามาใช้บริการด้วย อย่างไรก็ตาม การคลายล็อกดาวน์ธุรกิจร้านอาหารกลับมาเปิดให้นั่งทานในร้านได้อีกครั้ง ถือเป็นการคืนสิทธิ์ความชอบธรรม การต่อลมหายใจให้กับธุรกิจ 

ประวิทย์ จิตนราพงศ์ แม่ทัพแบล็คแคนยอน(ซ้าย),ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย(กลาง)

“ธุรกิจร้านอาหารเผชิญผลกระทบจากโรคโควิด-19 และมาตรการรัฐที่ล็อกดาวน์ ประเมินเบื้องต้นที่ผู้ที่ล้มหายตายจากไปนับแสนร้าย โดยเฉพาะระดับไมโครเอสเอ็มอีหรือรายเล็ก และคาดว่าจะยังมีการปิจกิจการเพิ่ม ขณะที่การคลายล็อกดาวน์ให้เปิดร้าน เป็นการต่อลมหายใจธุรกิจ และการฟื้นตัวจะกลับมาเร็ว เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคต้องการออกนอกบ้าน ใช้ชีวิตอยู่แล้ว” 

นางฐนิวรรณ กลาวอีกว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการหลังจากนี้คือระดมแรงงานในระบบ เบื้องต้นหลัก 1 แสนราย ไปฉีดวัคซีนให้ครบภายในเดือนกันยายนนี้ โดยล็อตแรกคาดว่าจะฉีดประมาณ 50,000 ราย ขณะที่ผ่านมา ผู้ประกอบการร้านอาหารเครือข่ายชั้นนำจำนวนมาก ฉีดวัคซีนให้พนักงานแล้ว เช่น กลุ่มเซ็นฯ กว่า 2,000 คน ไมเนอร์ฟู้ด กรุ๊ป กว่า 12,000 คน และเอสแอนด์พี กว่า 7,000 คน เป็นต้น 

สำหรับการคลายล็อกดาวน์ร้านอาหารระยะแรกเปิดให้บริการ 50% ส่วนการกลับมาเปิดได้ 100% คาดหวังจะเห็นเดือนกันยายนนี้  อย่างไรก็ตาม ด้านภาพรวมธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบโดยเฉพาะการนั่งทานในร้าน แต่อีกตลาดถือว่ามีการเติบโตอย่างมากทั้งซื้อกลับบ้าน(Takeaway) และเดลิเวอรี่