'สุพัฒนพงษ์' งัดข้อมูลโต้ฝ่ายค้าน ชี้เศรษฐกิจไทยยังเติบโต แม้เจอวิกฤตโควิด
“สุพัฒนพงษ์” งัดข้อมูลเศรษฐกิจโต้ฝ่ายค้าน ชี้เศรษฐกิจไทยไม่ล่มสลาย ธุรกิจเปิดใหม่ปีนี้สูงกว่าที่ปิดกิจการไป 6-7 เท่า คำขอส่งเสริมลงทุนเพิ่ม เศรษฐกิจขยายตัวได้ 2% ใน 6 เดือน ย้ำหาทางถมหลุมดำรายได้จากวิกฤติโควิด
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่อาคารรัฐสภา นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าที่ฝ่ายค้านมีการอภิปรายว่าเศรษฐกิจประเทศล่ม พังทลายมา 2 – 3 วันนั้นไม่เป็นความจริงเพราะในปี 2564 ครึ่งปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจขยายตัวได้ 2% และเศรษฐกิจไตรมาส 2 ปี 2564 ยังขยายตัวได้ 7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยขณะนี้รัฐบาลมีการคลายล็อกดาวน์ให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจประกอบกิจการได้ปกติตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมาส่วนการฉีดวัคซีนของไทยวันนี้ได้ถึง 32 ล้านโดส และเชื่อว่าในเดือน ต.ค. 2564 จะได้ 50 ล้านโดส ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้
“ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่บอกว่าเศรษฐกิจไทยจะพังทลายล่มจม มีการปิดกิจการไปแล้ว 6,000 แห่ง ซึ่งเป็นเรื่องจริง แต่ไม่มี สส. คนไหนบอกว่าในช่วง 7 เดือน ปี 2564 ที่ผ่านมามีการเปิดบริษัทใหม่ถึง 46,700 แห่ง สูงกว่าที่ถูกปิดกิจการถึง 6-7 เท่า ประเด็นที่ สส. พูดเป็นห่วงกันมากคือเรื่องหลุมรายได้ของประชาชนในช่วง 2-3 ปี ที่หายไปมากนั้น รัฐบาลยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยได้พยายามทุกทางเพื่อปิดหลุมรายได้ให้กลับมาเต็มเหมือนเดิม”
นอกจากนี้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) มีกำไรครึ่งปี 2564 จำนวน 5.28 แสนล้านบาท สูงกว่าปี 2563 ที่เกิดโควิด และยังสูงกว่าปี 2562 ที่ก่อนมีการระบาดของโควิด-19
ส่วนที่เป็นห่วงว่า นักลงทุนไม่สนใจลงทุนในประเทศไทยแล้ว ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะตัวเลขจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ในครึ่งปีแรก มีการขอส่งเสริมการลงทุนแล้ว 3.68 แสนล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 2563 ที่มีการขอลงทุน 1.5 แสนล้านบาท
โดยหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้เชื่อว่าปี 2564 จะมีการขอลงทุนผ่านบีโอไอถึง 7 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 5 ปี แสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศยังสนใจลงทุนในประเทศไทยอยู่
"ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังมีโอกาส มีรัฐบาลที่มีนโยบายที่ห่วงใยดูแลประชาชน เช่น นโยบายพลังงานเรามีการตรึงราคาพลังงานและช่วยเหลือประชาชนกว่า 2 หมื่นล้านบาท และช่วยเหลือผู้ประกอบการในทุกมิติ" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว