PASCO ขยายสายผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์เข้าสู่ตลาด EV เต็มตัว

PASCO ขยายสายผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์เข้าสู่ตลาด EV เต็มตัว

PASCO เพิ่มสายการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ครบวงจรเข้าสู่ตลาดรถ EV เต็มตัว พร้อมแตกไลน์เซกเมนต์รถหรูตอบโจทย์ความต้องการ

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO กล่าวถึงการขึ้นเป็นผู้ผลิตจำหน่ายอะไหล่แอร์รถยนต์แบบครบวงจร ด้วยการ เพิ่มสินค้าใหม่ กลุ่ม คอมเพรสเซอร์แอร์รถยนต์ และชิ้นส่วนระบบท่อแอร์ต่างๆ จะมุ่งเน้นสินค้าสำหรับรถยนต์นั่งยอดนิยม อาทิ โตโยต้าอัลติสฮอนดา ซิวิค และรถบรรทุกเล็กขนาด 1 ตัน อาทิ โตโยต้า วีโก้ อีซูซุ ดีแมกซ์

ยิ่งกว่านั้น  PACO ยังได้ขยายไลน์แอร์รถยนต์ในกลุ่มรถหรู หรือ LuxuryCars อาทิ พอร์ชเมอร์ซิเดสเบ๊นซ์ บีเอ็มดับบลิว โดยชูจุดเด่น ด้านคุณภาพการผลิตมาตรฐานสากล พร้อมการรับประกันสินค้า 1 ปีในราคาที่ประหยัดกว่าเกิน 50% ซึ่งคาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

PACO คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสภาวะการ ICChip ขาดตลาดซึ่งทำให้อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ทั่วโลกได้รับผลกระทบ และจะผลิตรถใหม่ได้น้อยลง ทำให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งต้องชะลอการซื้อรถใหม่ และ ใช้รถคันเดิมต่อไป ทำให้ตลาดอะไหล่รถยนต์ทดแทนคึกคักมากยิ่งขึ้น

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทได้เปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่เพื่อรองรับเทรนด์ใหม่ของโลก คือ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์ แบตเตอรี่คูลเลอร์ ซึ่งเป็น 1 ในชิ้นส่วนสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV และ PHEV (Plug-in Hybrid) ซึ่งขณะนี้ PACO ได้ผลิต แบตเตอรี่คูลเลอร์ สำหรับ Tesla ซึ่งเป็น แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก สำหรับรุ่น Tesla Model X และ Tesla 3 ตลอดจน รถยนต์ Plug-in Hybrid แบรนด์ BMW Series 3 และ Series 5 รุ่นปัจจุบัน (G20 และ G30) ซึ่งได้รับความนิยมสูงทั่วโลก โดย PACO เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ทดแทนรายแรกของไทย ที่เริ่มเปิดตลาดแบตเตอรี่คูลเลอร์ ทั้งตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ

“ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า(EV) เป็นตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง และจะเข้ามาแทนที่ตลาดรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในอนาคตอันใกล้ โดยผลิตภัณฑ์ของ PACO มีจุดเด่นที่มีคุณภาพเทียบเคียงกับอะไหล่แท้ ในราคาที่ต่ำกว่าประมาณกว่า 200% และมีการรับประกันสินค้านานถึง 12 เดือน โดยบริษัทฯจะมุ่งเน้นตลาดส่งออกเป็นหลักและมีวางจำหน่ายตลาดในประเทศในเครือข่ายร้าน PACO Auto Shop กว่า 200 สาขาในปัจจุบัน” นายสมชายกล่าว

นอกจากนี้  PACO เตรียมขยายตลาดส่งออก ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ดี บริษัทเชื่อมั่นว่าตลาดรถยนต์ทั่วโลกฟื้นตัวดี มีคำสั่งซื้อรถยนต์ใหม่ และ อะไหล่รถยนต์เพิ่มมากขึ้น โดยตลาดส่งออกหลักของบริษัทฯ คือ ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันที่มากขึ้นจากการเปิดเมือง ของ สหรัฐอเมริกา และทวีปยุโรป ทำให้บริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อแอร์รถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าหลักเพิ่มขึ้นอย่างมาก

บริษัทได้รับผลดีจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเนื่องจากรายได้หลักของบริษัทฯซึ่งมาจากการส่งออกกว่า 60% ประกอบกับราคาวัตถุดิบเริ่ม ปรับตัวลดลง ส่วนตลาดในประเทศ PACO มั่นใจว่าแผนการขยายเครือข่ายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub ได้ถึง 300 สาขาภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขาย ตลอดจนสร้างแบรนด์ PACO ให้เป็นที่ รู้จักในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ และเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้า จึงมั่นใจว่าปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะเติบโตมากกว่าเป้าหมาย 15%

โดยในครึ่งปีหลัง PACO เตรียมจะจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับประเทศไทย เพื่อเจาะตลาด และเพิ่มยอดขายในมาเลเซียอย่างมีประสิทธิภาพ