เฝ้าระวังน้ำท่วม (วันที่ 1 ตุลาคม 2564)
วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง เป็นแรงขายในหุ้น Big Cap. ทั้งกลุ่มธนาคาร พลังงาน และไอซีที จากการที่หุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า จึงมีแรงขายทำกำไร
ประกอบกับปัจจัยในประเทศ อย่างปัญหาน้ำท่วม และปัจจัยต่างประเทศ ที่นักลงทุนติดตามเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,605.68 จุด +0.48 จุด -11.30% มูลค่าการซื้อขาย 90,650 ลบ. ต่างชาติ -1,160.26 ลบ. TFEX -39,036 สัญญา ตราสารหนี้ -773.42 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ +0.3% ปิดที่ 75.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับรายงานจีนจะสั่งซื้อน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ ขณะนี้จีนกำลังเผชิญวิกฤตขาดแคลนพลังงานและส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคการผลิต
+ BOJ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) 3Q64 ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ พุ่งขึ้นแตะระดับ +18 จากระดับ +14 ใน 2Q64 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 ไตรมาส
+ สหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์ได้แล้วหลังจากปธน.ไบเดนลงนามรับรองกฎหมายงบประมาณชั่วคราวทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐมีงบประมาณใช้จนถึง 3 ธ.ค.
+ อังกฤษรายงาน GDP เพิ่มขึ้น 5.5% ใน 2Q64 สูงกว่าระดับคาดการณ์เบื้องต้นที่ 4.8%
+ ธปท.มองแนวโน้มศก.Q4/64 ฟื้นดีขึ้นตามการกระจายวัคซีนหนุนเชื่อมั่น-เปิดกิจกรรมเพิ่ม
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 11,754 ราย มีผู้เสียชีวิต 123 ราย รักษาหาย 12,473 ราย
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 546.80 จุด -1.59% กังวลว่าความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐนั้น อาจส่งผลให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้เกิดแรง เทขายในหุ้นกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดิ่งลงอย่างหนัก
- "เอเวอร์แกรนด์" จ่ายเงินตราสารหนี้ WMPs ที่ครบกำหนดชำระวานนี้เพียง 10%
- ธปท. ระบุว่า ในเดือนส.ค. 64 เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังลดลงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัวและส่งผลให้การส่งออกของไทยแผ่วลง ขณะที่ภาคการผลิตและการส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบจากปัญหา supply disruption
- สถานการณ์น้ำท่วม มีแจ้ง 8 จว.-กทม.เฝ้าระวังระดับน้ำเจ้าพระยา-ป่าสักเพิ่มสูงขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลง โดยมีแรงกดดันจากความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศในหลายจังหวัดที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,592-1,614 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย : AOT MINT ERW CENTEL ASAP
• ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ : TOP SPRC PTTGC
• ศบค. ผ่อนคลายเปิดโรงหนัง-ปรับเวลาเคอร์ฟิว-เวลาเปิดร้านอาหาร : MAJOR AU ZEN M CPALL
• เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง : TU CFRESH ASIAN GFPT
หุ้นรายงานพิเศษ
ประเด็นบวกกลุ่มถ่านหิน LANNA BANPU AGE
ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นทำ All time high สู่ระดับ 218 $/Ton +163%YTD จากความต้องการถ่านหินที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย และจีน ที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมเศรษฐกิจที่ขยายตัว เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ต่ำที่สุดในบรรดาเชื้อเพลิงทั้งหมด
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อ LANNA ที่ได้ประโยชน์สูงสุดในการปรับตัวขึ้นของราคาถ่านหินเนื่องจากรายได้หลักมาจากเหมืองถ่านหิน ขณะที่ BANPU ได้ประโยชน์รองลงมาเนื่องจากมีการกระจายความเสี่ยงจากเหมืองถ่านหินไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติ (วันนี้หุ้นเพิ่มทุน BANPU ซื้อขายเป็น Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้น) และ AGE ทาธุรกิจเทรดดิ้งทำให้ได้ประโยชน์น้อยสุดในบรรดาทั้ง 3 หลักทรัพย์ (LANNA ราคาเหมาะสม IAA Consensus 32 บาท BANPU ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 13.30 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) MAJOR ( Bloomberg Consensus 25.00 บาท) คอหนังเฮ! MAJOR เปิดบริการทุกโรงภาพยนตร์วันนี้ ดันหนัง 30 เรื่องเข้าฉายต่อเดือน หนังฟอร์มใหญ่ทำเงินเพียบ คาดฟันรายได้เดือนละ 600 ล้านบาท ใกล้เคียงก่อนโควิด เปิดแผนรุกหัวเมืองรองจับมือบิ๊กซี โลตัส เล็งสร้างหนังไทย 15-20 เรื่อง รับสองเด้ง ฉายเอง ขายสิทธิให้กับ Netfix โบรกคาดไตรมาส 4 ฟื้นตัว ลุ้นจ่ายปันผลพิเศษ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ORI ( Bloomberg Consensus 12.00 บาท) ORI เปิดยอดขาย 9 เดือนทะลุ 2.3 หมื่นล้านบาท โต 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็น 79% ของเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 2.9 หมื่นล้านบาท หลังปรับตัวสู่การตลาดออนไลน์ผ่าน Property Live พร้อมบุกตลาดเซ็กเมนต์ใหม่ต่อเนื่อง จ่อเปิดอีก 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,295 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2564 หนุนยอดขายสร้างสถิติ All Time High (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TU - SFLEX ( Bloomberg Consensus 24.80 , 6.70 บาท) TU ส่งบริษัทย่อย “ไทยยูเนี่ยน กราฟฟิกส์” จับมือ SFLEX จัดตั้งบริษัทร่วมทุน 250 ล้านบาท เพื่อผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน “ปรินทร์ธรณ์” ลั่นช่วยขยายตลาดและขยายฐานรายได้ คาดก่อสร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/65 ตั้งเป้ารายได้ 1,500 ล้านบาท ภายในปี 70 (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) TRT ( Bloomberg Consensus - บาท) “ถิรไทย” มั่นใจผลงานปีนี้มีกำไรแน่นอน พร้อมคงเป้ารายได้ทั้งปีไว้ที่ 2,109 ล้านบาท ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังโต หลังตุนแบ็กล็อก 1,428 ล้านบาท จ่อบุ๊กครึ่งปีหลังกว่า 1,053 ล้านบาท ขณะที่เดินหน้าประมูลงานและรอผลประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 8,077 ล้านบาท ส่วนปีหน้าลั่นอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าสดใส (ที่มา ข่าวหุ้น)