Non-bank - New round of pressures (14 ต.ค. 64)

โดยเพดานดอกเบี้ยจะมีผลกับบางกลุ่มของสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์,รถยนต์ และเครื่องมือทางการเกษตร ทั้งนี้ เพดานดอกเบี้ยดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการปรึกษาหารือและยังต้องมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นก่อนจะได้ข้อสรุป ที่มา: หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ.

 

เผชิญแรงกดดันด้านลบ

เรามองว่ามาตรการใหม่นี้จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อผู้ให้บริการลีสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ ได้แก่ TK, S11 ซึ่งปัจจุบันคิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกิน 15% มาก แต่จะส่งผบกระทบในระดับปานกลางกับ MTC และ SAWAD แต่จะไม่กระทบกับ AEONTS KTC TIDLOR และกลุ่มธนาคาร

 

การกำหนดเพดานดอกเบี้ยลีสซิ่ง = จำกัดศักยภาพในการเติบโตของ MTC และ SAWAD

หลังจากที่ธปท.ได้ลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนลงมาเหลือ 24% เมื่อกลางปี 2563 และ GBS เข้ามาแทรกแซงตลาดด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนเหลือเพียง 15% ทั้ง MTC และSAWAD จึงหันไปขยายธุรกิจใหม่คือบริการลีสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ (คิดอัตราดอกเบี้ย 20-25%) เพื่อขยายประเภทธุรกิจ และเพิ่ม yield ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจนถึงปัจจุบัน MTC ได้ขยายบริการนี้จนคิดเป็นสัดส่วน3% ของสินเชื่อรวม ในขณะที่ SAWAD ได้ตั้งบริษัทลูกใหม่ขึ้นมาเพื่อขยายสินเชื่อประเภทนี้โดยเฉพาะและปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนถึง 12% ของสินเชื่อรวม ทั้งนี้ หากมีการจำกัดเพดานดอกเบี้ยเอาไว้ที่ 15%จริง จะเป็นตัวจำกัดศักยภาพในการขยายสินเชื่อ และจะทำให้ yield ถูกกดดันเพิ่มขึ้นอีก

 

ผู้ประกอบการอยู่ไม่ได้ที่อัตราดอกเบี้ยที่ 15%

หลังจากที่ทำการวิเคราะห์ต้นทุนของผู้ประกอบการแต่ละรายแล้ว เราคิดว่าผู้ประกอบการจะขาดทุนถ้ามีการจำกัดเพดานดอกเบี้ยบริการลีสซิ่งรถยนต์, รถมอเตอร์ไซค์ และอุปกรณ์การเกษตรไว้ที่ 15% จริงทั้งนี้ ต้นทุนในการดำเนินงานของธุรกิจประเภทนี้อยู่ที่ประมาณ 7-9% (รวมต้นทุนพนักงาน, เครือข่ายสาขา และการติดตามหนี้) ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 3-6% และ credit cost อยู่ที่ 2-7% ดังนั้น เราจึงคิดว่าน่าจะต้องมีการเจรจาต่อรองเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อลีสซิ่ง/เช่าซื้อกันต่อไป

 

Risks

ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ, การแข่งขันจากผู้เล่นรายใหญ่ และผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาใน