วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 ต.ค. 64)

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก 170,000 บาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 64 และเพิ่มขึ้น 210,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 3.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 65 โดยคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันทั้งหมดในปี 65 จะสูงถึง 99.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เล็กน้อย

+ ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธข้อเรียกร้องที่จะให้กลุ่มโอเปคและพันธมิตร (OPEC+) ปรับเพิ่มกำลังการผลิต  โดยกล่าวว่าความพยายามของกลุ่มโอเปคพลัสเพียงพอแล้ว ที่จะช่วยป้องกันตลาดน้ำมันจากราคาที่ผันผวนของตลาดก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน โดยกลุ่มโอเปคพลัสยังคงยึดข้อตกลงก่อนหน้านี้ ที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ราว 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องอุปทานที่ตึงตัว หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในปี 64 ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก จะลดลง 260,000 บาร์เรลต่อวันแตะระดับ 11.02 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

 

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการปรับตัวลดลงของน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ กว่า 4.6 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นของแอฟริกา

 

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันดีเซลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่ยังค่อนข้างจำกัด