กางพอร์ตลงทุน‘ซิซซากรุ๊ป’รับเปิดประเทศขยายไลน์ธุรกิจกระจายเสี่ยง

นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทมุ่งพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บนทำเลแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกในภูเก็ตและพังงา ซึ่งมีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้และผลักดันผลกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีโครงการที่จะระหว่างการพัฒนาและสามารถรับรู้รายได้ช่วงปี 2564-2568 รวมมูลค่าสูงกว่า 9,200 ล้านบาท จากช่วง 16 ปี ที่ผ่านมา ซิซซา กรุ๊ป พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและเพื่อลงทุนมากกว่า 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 6,600 ล้านบาท

"เราจับเมกะเทรนด์โลกหลังโควิดที่ทุกคนจะโฟกัสเรื่องสุขภาพมากขึ้น ด้วยการลงทุน 4,600 ล้านบาทในการพัฒนาโครงการ นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต ตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้คนที่ให้ความสำคัญด้านการดูแลสุขภาพ หนุนไทยก้าวสู่เมดิคอลฮับ แบบครบวงจร คาดก่อสร้างราว 5 ปี หลังจากนั้นมีแผนตั้งเป็นบริษัทลูกของซิซซากรุ๊ปเพื่อเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์"

สำหรับปีนี้ จัดสรรงบ 4,700 ล้านบาท ลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน “อวตารธีมปาร์ค รีสอร์ท” ลายัน ภูเก็ต บนที่ดินกว่า 16 ไร่ มีการผสมผสานระหว่างสวนสนุกกับโรงแรม ซึ่งจากการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ผลสำรวจนักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ต พังงา ประมาณ 30% เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว (Millennial Family) มีลูกอายุ 2-12 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร

"ภูเก็ตสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็กมีน้อย จึงถือเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ซิซซา กรุ๊ป มองเห็นโอกาส ในการพัฒนาโรงแรมที่มีสวนสนุก เครื่องเล่น ภายใต้ชื่อ คลิฟฟ์ปาร์ค พร้อมเนอสเซอรี่ที่พ่อแม่สามารถฝากเด็กไว้ได้" 

โดยใช้แบรนด์ในเครือวินแดมบริหาร ซึ่งจะเป็นโรงแรม 4 ดาว กว่า 800 ห้องในรูปแบบคอนโดเทลกล่าวคือเป็นโรงแรมที่เปิดขายเหมือคอนโดมิเนียม เปิดตัวโครงการไตรมาสแรกปี 2565

ซิซซากรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ 3 แห่ง มูลค่า 11,000 ล้านบาท ได้แก่ “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” ก่อสร้างแล้วเสร็จ 90% ในส่วนที่เป็นโรงแรมเปิดให้บริการแล้ว  “นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต” และ "อวตารธีมปาร์ค รีสอร์ท ลายัน ภูเก็ต"

อีก 3 โครงการที่มีแผนไดเวอร์ซิฟายธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบโจทย์ความสนใจของการกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น ตามแผนในปี 2565 จะเริ่มพัฒนาฟาร์มเกษตร (Agriculture Farm) โครงการ ซีเนียร์เฮาส์ซิ่ง รองรับกลุ่มผู้สูงวัยที่ต้องการบ้านพักใกล้กรุงเทพฯ สามารถขับรถยนต์ไปได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง อากาศเย็นใกล้แม่น้ำ ขนาดโครงการ 1,000 ไร่ขึ้นไป ในจังหวัดนครนายก สระบุรี และกาญจนบุรี วางราคาบ้านไม่เกินหลังละ 3 ล้านบาท

ในปี 2566 จะขยายสู่ธุรกิจอาคารสำนักงาน แม้ว่าหลายคนจะมองว่าหลังโควิด-19 ตลาดดังกล่าวนี้จะได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าพื้นฐานการใช้ชีวิตของผู้คนยังต้องการพบปะ สังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน จึงมองว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจเข้าไปลงทุน ปี 2567 มีแผนที่เปิดโรงเรียนนานาชาติ เนื่องจากมีแนวโน้มดี ซึ่งก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง ถือเป็นธุรกิจดาวรุ่ง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากคนจีนนิยมส่งบุตรหลานเรียนต่างประเทศ ซึ่งชาวจีนสนใจโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยมากพอสมควร

“เรายังมีการลงทุนดำเนินการตามแผนและเป้าหมายเดิม เพื่อรองรับการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเปิดประเทศ”