“PTTGC” เดินหน้าใช้นวัตกรรมสร้างสมดุลเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม
"PTTGC" ย้ำองค์กรต้องใช้นวัตกรรมสร้างสมดุลเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทุกผลิตภัณฑ์จะต้องบริหารจัดการให้สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่เพื่อลดโลกร้อน เดินหน้าใช้หลัก “5R” และเทคโนโลยีดิจิทัลลดการปล่อยแก๊ซเรือนกระจกลดลง 20% ในปี2573
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC กล่าวในงานสัมนาออนไลน์ “THAILAND NEXT episode3 Circular Economy นวัตกรรมเพื่ออนาคต” จัดโดย บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ว่า เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืน ทุกคนสามารถนำแนวคิดไปบริหารองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งซีจีจะเน้นบริหารองค์กรโดยการสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งการสร้างความยั่งยืนจะต้องดำเนินธุรกิจด้วยธรรมาภิบาล องค์กรต่างๆ ในอนาคตจะต้องสร้างความสมดุลต่อไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ จะทำองค์กรให้ดีและสร้างกำไรอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องสร้างสังคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบในทุกด้านอย่างสมดุลกัน ระหว่างสังคมสิ่งแวดล้อม เป็นภาพระยะยาวบนการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมทุกมิติ โดยสร้างความยั่งยืนให้เป็นที่พึ่งของสังคม ชุมชน ผู้ถือหุ้น ดังนั้น องค์กรจะต้องสร้างสมดุล เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมเพื่ออนาคต
เศรษฐกิจหมุนเวียนมีส่วนร่วมทั้งหมด เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน เมื่อผลิตหรือสร้างสินค้าอะไรใหม่ๆ จะต้องใช้อย่างคุ้มค่า ใช้ให้น้อยที่สุด และต้องผลิตอย่างมีคุณค่ามีกระบวนการคัดแยกและรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้ ยกตัวอย่าง พลาสติกต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีเป็นวัสดุที่ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเราดีขึ้น มีการในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ รถยนต์ทุก ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าชนิดอื่น
อย่างไรก็ตาม การใช้พลาสติกด้วย Linear Economy ในปัจจุบัน สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามมา เช่น ปัญหาขยะพลาสติก การรั่วไหลลงสู่ทะเล ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่นั้นได้น้อยแค่ 6-7% และทิ้งกลายเป็นขยะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม55% จึงจะต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุด โดยการใช้แล้วนำมารีไซเคิล ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีจะมาช่วยให้สามารถนำกลับมารีไซเคิลจะแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้ดี
“เมื่อผลิตเสร็จแล้วการที่จะขายสินค้าได้อย่างรู้คุณค่า ก็ควรนำกลับมาคัดแยกและรีไซเคิล ตอนนี้ทุกคนสนใจร่วมกันคือภาวะโลกร้อนการโดยสถิติการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกปี2050 อยู่ที่ 51 พันล้านตัน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ สามารถแบ่งออกเป็นการประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานสะอาดทั้งการขนส่งและเดินทาง 55% (28 พันล้านตัน) การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในกระบวนการผลิต ลดก๊าซเรือนกระจกภาคการเกษตร การดักจับคาร์บอนอยู่ที่ 25% (13 พันล้านตัน) และ 20% (10 พันล้านตัน) โดยการใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อก้าวสู่ Net Zero Emissions”
ทั้งนี้ PTTGC ดำเนินธุรกิจทำไบโอด้วยอุตสาหกรรมการสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นสิ่งสำคัญ บริษัทฯ มีไบโอเคมีทำจากพืช สัตว์ ไขมันต่างๆ มีโรงงานทั้งไทยและต่างประเทศ อยู่ในชีวิตประจำวัน จึงอยากทำแต่สิ่งที่ดี ด้วยความเชื่อการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมสังคมสร้างองค์กรที่ยั่งยืน การดำเนินธุรกิจให้ได้กำไรเพื่อเสริมให้องค์กรยั่งยืนและจะต้องควบคู่กับการทำธุรกิจที่ยั่งยืนพร้อมกับสร้างความสมดุลในการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืนด้วย ซึ่งแนวคิดสร้างกรอบการทำงานของพีทีทีจีซี คือผลิตทุกอย่างให้ตลาดโดยใช้ทรัพยากรให้น้อย และปล่อยของเสียให้น้อยที่สุด และสร้างความยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขยายไปสู่สังคม ชุมชนและทุกคนได้มีส่วนร่วมช่วยกันทำเศรษฐกิจหมุนเวียน
สำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียนของPTTGC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ โดยใช้หลัก “5R” และเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งเทคโนโลยีที่มีอยู่และเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร และลดการใช้พลังงาน นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้ และแสวงหาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำรูปแบบใหม่เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีการลดการใช้น้ำเพราะน้ำก็เป็นทรัพยากรที่สำคัญและนำกลับมาบำบัดใช้ใหม่ โดยสามารถนำน้ำกลับมาใช้ได้ถึง 30% ดังนั้น เรื่องของการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องทำได้ให้ยั่งยืนมากขึ้น ต้องย่อยสลายได้ หรือนำกลับมาใช้ใหม่ โดยออกแบบให้ใช้วัตถุดิบให้น้อยลงและรีไซเคิลง่าย เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย ช่วยขับเคลื่อนลดการปล่อยแก๊ซเรือนกระจกลดลง 20% ในปี2573