“จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ชี้ NFT เครื่องมือใหม่ “สร้างเงินในอากาศ”
"กฎของโลกธุรกิจ" ในอนาคตเปลี่ยนไปแล้ว หลังจาก “บล็อกเชน” ซึ่งเป็นอินเทอร์เน็ตเจนเนอร์เรชั่นที่มาดิสรับ “อินเทอร์เน็ต” เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการถ่ายโอนมูลค่าทุกอย่างรอบตัวเราเข้าไปในโลกดิจิทัล โดย "NFT" เป็นเครื่องมือสร้างเงินให้กับธุรกิจในโลกใหม่
สำหรับในโลกดิจิทัล ที่เรียกว่า "โลกยุคใหม่" หรือ “โทเคนไนเซชั่น” และ"โลกเสมือน" จะมาแน่นอนในอีก 10 ปีข้างหน้า และ ในโลกอนาคต “เศรษฐกิจกิจิทัล” ก็จะใหญ่กว่า เศรษฐกิจปัจจุบัน และเงินจะหมุนเร็วขึ้นมากกว่าปัจจุบันมาก
และเมื่ออินฟราสตักเตอร์เทคโนโลยีใหม่ ปกติจะเกิดขึ้นทุก 10 ปี เข้ามาทำให้ทุกวงการทุกอุตสาหกรรมเปลี่ยนเปลง แล้วตอนนี้ "ทุกอุตสาหกรรมเรียลเซ็กเตอร์จะต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง" นั้น
"จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” Group CEO ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยกฎของธุรกิจที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกยุคใหม่
แน่นอนสิ่งที่เรียกว่า “NFT” หรือ Non-Fungible Token จะเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากในโลกอนาคต 5-10 ปีข้างหน้า ที่ภาคธุรกิจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
อ่านข่าว : "BITKUB" บุกทันที! "ท๊อป จิรายุส" โพสต์ขยายทีม รับเพิ่ม 350 คนขึ้นยานแม่ SCBX
“NFT” ซึ่งเป็นชื่อเรียกของ คริปโทเคอเรนซี่ประเภทหนึ่ง เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ไม่สามารถทำซ้ำหรือคัดลอกได้ ต่อให้มีการก๊อบปี้ไป แต่ต้นฉบับของจริงจะมีอยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนโทเคน NFT ก็เป็นเหมือนโฉนด เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ชิ้นนี้
"จิรายุส" กล่าวว่า ส่วนตัวชื่นชอบ NFT มาก เนื่องจากมองว่า " NFT" เป็นเครื่องมือใหม่ที่ไม่ได้เป็นการไปแย่งเงินจากใคร แต่เป็นการ “สร้างเงินในอากาศ” เหมือนเราหยิบเพชรในอากาศ โดยมี NFT เป็นตัวขัดเพรชนั้นให้มีมูลค่าเกิดขึ้นออก โดยที่ไม่มีใครเสียเปรียบหรือได้เปรียบ ทุกฝ่าย WIN-WIN
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นชัดเจนแล้วในปัจจุบัน อย่างเช่น บิทคับ ร่วมมือ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (Miss Universe Thailand 2021) เพื่อออก “NFT Card” โดยมองว่า NFT สามารถต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น ในสิงคโปร์ที่ใช้ NFT ในลักษณะสัญญาซื้อขายบ้าน รถยนต์ รวมถึงตราสารเครดิต (ใบ L/C) ต่างๆ ที่เป็นสินทรัพย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว (Unique Asset)
ขณะเดียวกันมองว่า NFT สามารถช่วยสร้างอาชีพใหม่ เช่น คนดูโฆษณา คนเล่นเกม หรือคนไปทำกิจกรรมต่างๆ หรือเกิด Use case NFT ในแง่ของการระดมทุนให้กับศิลปิน เช่น การปั้นศิลปินหน้าใหม่ ที่มีแววเป็นซุปตาร์ในอนาคต ก็สามารถออก NFT Card ซึ่งจะมีการเก็งกำไรในชื่อเสียงล่วงหน้า นี่คือจุดเปลี่ยของนวงการเอ็นเทอร์เทนเม้นต์ที่เกิดขึ้นอย่างแน่อน
อีกทั้ง NFT ยังเข้ามาเปฏิวัติวงการเกม และในปีหน้า จะเป็นปีทองของ NFT เกม ที่สามารถซื้อขายเกมไอเทม ข้ามเซิฟเวอร์ ตอนนี้เกมทุกเจ้ามาติดต่อบิทคับ ดังนั้นเมื่อวงการเกม จะเป็นฟรอนเอ็นท์ สิ่งสร้างมูลค่าเพิ่มได้ต่อไป เช่น การเชื่อมกับวงการการเงิน ในระบบหลังบ้าน ก็สามารถปล่อยกู้กับผู้เล่นเกม
และล่าสุด เมตาเวิร์ส (Metaverse) กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็วในกลุ่มนักลงทุนและบริษัทต่าง ๆ หลังเฟซบุ๊กประกาศรีแบรนด์ ลุยสร้างเมตาเวิร์ส จริงๆ แล้วตอนนี้โลกเสมือนจริงเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การซื้อขายที่ดิน แมว หรือแม้แต่หิน ใครจะเชื่อว่า มูลค่าการซื้อขายหินในโลกเสมือนจริงมีมูลค่ากว่า 33 ล้านบาทหรือ มากกว่าในโลกปัจจุบันแล้ว ดังนั้นหลังจากโลกเสมือนจริงจะมาสร้างการเติบโตให้กับโลก 5-10 ปีข้างหน้า ด้วยอัตราการเติบโตยกกำลังสองทุกๆ สองปี
" ในโลกยุคอนาคต 5-10 ปีข้างหน้า NFT จะมาสร้างธุรกิจใหม่ให้กับประเทศไทย ภาคธุรกิจต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ส่วนตัวยอมรับตื่นเต้นมากกับ NFT ที่จะเข้ามาปฏิวัติในหลากหลายวงการ หรือแม้แต่ธุรกิจที่เป็นเรียลเซ็กเตอร์ "
สิ่งที่ทุกคนต้องเจอ คือ “โลกดิจิทัล” จะมาเชื่อมกับ “ โลกเรียลเซ็กเตอร์” และ คนเราจะมีสองชีวิต ใน “โลกความเป็นจริง” และ “โลกเสมือน” สิ่งที่กล่าวมานั้นจะเกิดขึ้นทั้งหมด “ ไม่ใช่จิตนาการ ตอนนี้เริ่มเกิดขึ้นแล้วและการเกิดจะเร็วขึ้นอีกหลังจากนี้ด้วย NFT