กลุ่มปตท. ใช้เทคโนโลยีดีพเทค ปั้น “บางกระเจ้า” ต้นแบบฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
กลุ่มปตท. จัดเต็มเทคโนโลยีดีพเทค สร้างฐานข้อมูลเชิงลึก ปั้น “บางกระเจ้า” ต้นแบบฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วยเอไอคอยติดตามผลการรักษาพื้นที่สีเขียว 6,000 ไร่ ภายใน 5 ปี ตั้งเป้าเป็นต้นแบบการพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน
นางสาวพณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารด้านธุรกิจ บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับพันธมิตรโดยใช้เทคโนโลยีเชิงลึก (DeepTech) วางแผนฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวที่คุ้งบางกระเจ้า ในโครงการ OUR Khung BangKachao พร้อมใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ติดตามผลการรักษาพื้นที่สีเขียว 6,000 ไร่ ภายใน 5 ปี ตั้งเป้าเป็นต้นแบบการพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืนโดยประสานพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน (Social Collaboration with Collective Impact) เพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการ OUR Khung BangKachao ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2562 ภายใต้ความร่วมมือจากกว่า 100 องค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา ชุมชน โดยมีมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นผู้กำกับดูแลกำหนดนโยบาย และในปีนี้ วรุณาได้เป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการวางแผนและติดตามผลการดำเนินงานโครงการฯ นำร่องในงานพัฒนาพื้นที่สีเขียว ซึ่งบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานคณะทำงานฯ โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายอีกกว่า 30 องค์กร ผ่านแพลตฟอร์มวิเคราะห์ “วรุณา” (VARUNA Analytics) ในการเก็บข้อมูลในพื้นที่ด้วยโดรนสำรวจและดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์พื้นที่แบบ End to End ด้วยระบบเอไอ (AI) ช่วยให้การวางแผนฟื้นฟูทำได้ตรงจุด และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่เพื่อสำรวจและติดตามผลการพัฒนาพื้นที่สีเขียว คือ ความท้าทายอย่างหนึ่งของการศึกษาสิ่งแวดล้อมในโครงการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่แบบคุ้งบางกระเจ้า ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องใช้ทั้งกำลังคนและเวลาเพื่อลงพื้นที่เดินสำรวจ แต่การนำเทคโนโลยีอย่างเอไอเข้ามาใช้จะช่วยให้วางแผนการลงพื้นที่ได้อย่างตรงเป้าหมาย แม่นยำ ทำให้ลดเวลาการดำเนินงานส่วนนี้ได้อย่างมาก
เทคโนโลยีของวรุณาเป็นการใช้ภาพถ่ายจากโดรนควบคู่กับภาพ Normalized Difference Vegetation Index (NDVI) จากดาวเทียม ตรวจวัดความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ในพื้นที่คุ้งบางกระเจ้า รวมถึงวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ โดยดาวเทียมจะเก็บภาพทุกสัปดาห์ไว้เป็นฐานข้อมูล ที่สามารถดูย้อนหลังได้ถึง 5 ปี ทำให้สามารถติดตามผลได้อย่างต่อเนื่อง และวางแผนลงพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง มีการใช้เทคนิค Machine Learning และ AI มาประมวลผล ซึ่งให้ผลทั้งด้านกว้าง คือ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ และเชิงลึก คือ ได้ข้อมูลที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง ในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยเพิ่มศักยภาพในการติดตามการเปลี่ยนแปลงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางแผนพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ให้สำเร็จตามเป้าหมาย
นอกจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว วรุณายังมีจุดแข็งด้านทีมงาน ซึ่งประกอบด้วยวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักวิชาการเกษตรดิจิทัล (Digital Agronomist) ที่ทำงานร่วมกับรุกขกร นักวิชาการป่าไม้ โดยวรุณาช่วยพัฒนาและจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศ และติดตามผลเพื่อพัฒนาพื้นที่สีเขียวของคุ้งบางกระเจ้า รวมถึงเตรียมวางแผนพัฒนาระบบให้เจ้าหน้าที่หน้างานสามารถเรียกดูข้อมูลที่มีข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างสะดวกผ่านทางอุปกรณ์มือถือ
อีกทั้ง วรุณาได้จัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่สีเขียว เช่น การใช้ประโยชน์ของพื้นที่ การจัดโซนนิ่งพื้นที่ ลักษณะพื้นที่สีเขียวและลักษณะดินและน้ำในพื้นที่ และภาพรวมเชิงสถิติ พร้อมกับใช้ AI สร้างโมเดลข้อมูลเพื่อช่วยสร้างระบบติดตาม ซึ่งในอนาคตจะวางแผนพัฒนาโมเดลการคำนวณการกักเก็บคาร์บอน เพื่อศึกษาผลเชิงลึกด้านสิ่งแวดล้อมของพื้นที่บางกระเจ้า
นางสาวพณัญญา กล่าวว่า วรุณามั่นใจว่าการนำเทคโนโลยีมาช่วยเก็บข้อมูลเพื่อติดตามผลความคืบหน้าการดำเนินโครงการ รวมถึงสร้างฐานข้อมูลจำเป็นที่สามารถนำไปวิเคราะห์จะช่วยให้ทีมงานสามารถปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานได้อย่างทันท่วงที เพื่อช่วยสนับสนุนให้โครงการบรรลุผลสำเร็จตามที่วางไว้ และคาดหวังว่าโครงการ OUR Khung BangKachao จะเป็นต้นแบบการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในการสร้างความยั่งยืนแบบสานพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งสามารถนำไปเป็นแนวทางพัฒนาพื้นที่อื่นได้ในอนาคต