“AAV” ไตรมาส 3/64 ขาดทุนอ่วม 2,098 ล้านบาท มั่นใจ Q4 ธุรกิจฟื้นรับเปิดประเทศ
“AAV” เผยผลประกอบการไตรมาส 3/64 ขาดทุนอ่วมกว่า 2,098 ล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการรัฐออกนโยบายระงับบินควบคุมโควิด-19 มั่นใจเเผนเพิ่มทุน 1.4 หมื่นล้านบาท ช่วยเพิ่มสภาพคล่องการให้บริการต่อเนื่องรับเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศ
“เอเชีย เอวิเอชั่น” (AAV) ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (TAA) เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2564 มีรายได้รวม 457 ล้านบาท และผลขาดทุนอยู่ที่ 2,098 ล้านบาท ในขณะที่ผลการดำเนินงานก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 23% แม้ว่าได้รับผลกระทบหลักจากความจำเป็นในการระงับให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศชั่วคราว ตั้งเเต่วันที่ 12 ก.ค.-2 ก.ย.2564 เพื่อสนับสนุนความพยายามในการควบคุมการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ตามนโยบายรัฐ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลงตามปริมาณเที่ยวบิน หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส
อย่างไรก็ตาม หลังกลับมาให้บริการอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ย.2564 ตามมาตรฐานสุขอนามัยและมาตรการคัดกรองผู้โดยสารสูงสุด มีความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสายการบินสามารถเพิ่มเที่ยวบินและความถี่ได้ต่อเนื่อง โดยฝ่ายบริหารได้กำหนดกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวด ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้สูงสุด
สำหรับไตรมาส 3 ปี 2564 TAA ขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 79,767 คน ลดลง 96% สอดคล้องกับปริมาณที่นั่งที่ลดลง 95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 60% และมีฝูงบินรวม 60 ลำ ณ สิ้นสุดไตรมาส
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ถือเป็นช่วงการระบาดหนักที่สุดของโควิด-19 ในประเทศไทย สืบเนื่องตั้งเเต่การเเพร่ระบาดระลอกที่ 3 ในเดือน เม.ย.2564 ส่งผลกระทบตรงต่อผลประกอบการของบริษัท
โดยบริษัทได้ปรับตัวทุกวิถีทาง ทั้งการบริหารจัดการต้นทุน นำนวัตกรรมมาปรับใช้เพื่อหาโอกาสสร้างรายได้ใหม่ๆ โดยเฉพาะการเปิดตัว "แอร์เอเชียฟู้ด" (airasia food) ในเดือน ส.ค.2564 การพัฒนา "แอร์เอเชีย ซูเปอร์ แอพ" (airasia Super App) เพื่อตอบโจทย์ทุกสไตล์ และยกระดับให้แอร์เอเชียเป็นมากกว่าสายการบิน พร้อมเข้าถึงฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น การพัฒนาขนส่งด้านคาร์โก้ผ่านเทเลพอร์ต เป็นต้น
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไปจะเป็นช่วงฟื้นตัวของธุรกิจสายการบินเเละอุตสาหกรรรมท่องเที่ยวในภาพรวม เห็นได้จากการเดินทางภายในประเทศที่มีผลตอบรับดีต่อเนื่อง แคมเปญสนับสนุนการท่องเที่ยวจากภาครัฐ แผนการได้รับวัคซีนที่ครอบคลุมขึ้น นโยบายเริ่มเปิดประเทศตั้งเเต่ 1 พ.ย.2564 เป็นต้นมา
รวมทั้งแผนการปรับโครงสร้างกิจการและระดมทุนใหม่กว่า 14,000 ล้านบาทของบริษัทที่คืบหน้าผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทเรียบร้อยเเล้ว คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1 ปี 2565 ซึ่งทำให้บริษัทมีสภาพคล่องเเละความพร้อมเต็มที่ในการเเข่งขันรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับเข้ามา
“ไทยแอร์เอเชียพร้อมเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว เราปรับตัวและสร้างโอกาสใหม่ได้แม้ในภาวะวิกฤตที่ยากลำบาก เมื่อตลาดท่องเที่ยวเดินทางเปิดเต็มที่อีกครั้ง เราจะเป็นผู้นำตลาดที่เเข็งเเกร่งที่สุดเเน่นอน” นายสันติสุขกล่าว