BA เผยพิษโควิดทำไตรมาสสามขาดทุนเกือบ7พันล้าน
BA เผยไตรมาสสามปีนี้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 6.9 พันล้านบาท เป็นผลจากการหยุดการปฏิบัติการบินชั่วคราวในเดือนก.ค.-ส.ค.โดยมีจำนวนเที่ยวบินลดลงจากปีก่อน 75.9% และรายได้บัตรโดยสารลดลง 83% และธุรกิจสนามบินลดลง 85.0%
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 บริษัทฯ มีผลขาดทุนทางบัญชีจากการยกเลิกสัญญาเช่ากองทุนสนามบินสมุย 5,434.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (one-off transaction) และมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 1,243.8 ล้านบาท บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 6,987.3 ล้านบาท
บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 672.3 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2563 25.3% เป็นผลจากการหยุดการปฏิบัติการบินชั่วคราวตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม 2564 และกลับมาทำการบินอีกครั้งในเดือนกันยายน 2564 ในเส้นทางกรุงเทพฯ-สมุย, กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-สุโขทัย, กรุงเทพฯ-ลำปาง และกรุงเทพ-ภูเก็ต
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้ 3,472.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2563 จำนวน 57.5% ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้บัตรโดยสารของธุรกิจสายการบินและธุรกิจสนามบิน ลดลงจากปีก่อน 88.3% และ 85.0% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังมีจำนวนเที่ยวบินลดลงจากปีก่อน 75.9% และมีอัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 55.2% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 6,083.2 ล้านบาท ลดลง 51.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 2,587.4 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้วางแผนปฏิบัติการบินให้เหมาะสมและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษภายใต้โครงการพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ ได้แก่ โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนในบริษัทร่วม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 413.4 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด