BDMS - ปัจจัยบวกหลายประการ (17 พฤศจิกายน 64)

ในขณะที่ยังมีรายได้บริการโควิดถึงแม้จะลดลง เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY21F-FY23F ขึ้น 9-12% สะท้อนผลกำไร 3Q ที่สูงกว่าคาดและแนวโน้มที่ดีขึ้น เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 31 บาท (สินปี 2022) ผลตอบแทนรวม 27% คงคำแนะนำ ซื้อ

 

เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ

ไทยเปิดประเทศและผ่อนคลายข้อบังคับตั้งแต่ 8 ต.ค. และอนุญาตให้ทำ AHQ โดยตั้งแต่ 1 พ.ย. ผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงต่ำไม่ต้องกักตัว ปัจจัยนี้หนุนการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติซึ่งมารักษาโรคซับซ้อน ซึ่งเคยสร้างสัดส่วนรายได้ 30-36% ของกลุ่มก่อนโควิด BDMS มีผู้ป่วยต่างชาติใน waiting list 475 ราย BDMS เป็นผู้สนับสนุนงาน World Expo ในดูไบ (6 เดือน) จะทำให้รพ.เป็นที่รู้จักของลูกค้าทั่วโลก

 

ผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิดกลับมา ขณะที่ยังคงให้บริการโควิด

จำนวนผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด (โดยเฉพาะการผ่าตัดไม่เร่งด่วน) เพิ่มขึ้นอย่างมากในต.ค. ทำให้อัตราการใช้เตียงเพิ่มขึ้นเป็น 75% จาก 71% ใน 3Q ส่งผลให้รายได้เติบโต 20% yoy ในต.ค. ยังคงมีรายได้การให้บริการโควิด แต่จะลดลง รายได้บริการโควิดรวมถึงการฉีดวัคซีน, ผู้ป่วยในและการตรวจโควิด (ต่ำกว่า 7,000 รายต่อวันในต.ค. เทียบกับ 7,000+ ใน 3Q)

 

 

 

Digital health ecosystem = ปัจจัยใหม่ขับเคลื่อนการเติบโต

BDMS จะใช้งบลงทุน 500 ลบ. เพื่อพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพทางดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าและบุคลากรทางการแพทย์ คาดว่าจะทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจและผลลัพธ์ทางคลินิก และประสิทธิภาพการดำเนินงาน ระบบจะช่วยให้ BDMS มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ในตลาดผู้มีรายได้น้อยลง รพ.ตั้งเป้าหมายผู้ป่วยมากกว่า 20 ล้านรายและสร้างรายได้ 10-15% ของรายได้รวมในห้าปีข้างหน้า รพ.ยังคาดว่าจะประหยัดต้นทุนจากการเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง

 

ปรับคาดการณ์กำไรและราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 31 บาทคงคำแนะนำ ซื้อ

เราปรับคาดการณ์กำไรขึ้น 9% เป็น 7.8 พันลบ. ปี FY21F, 12% เป็น 9.1 พันลบ. ปี FY22F และ 10% เป็น 1.0 พันลบ. ปี FY23F สะท้อนกำไร 3Q ดีกว่าคาดและแนวโน้มที่ดีขึ้น เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นสู่ 31 บาทจาก 26 บาท ผลตอบแทนรวม น่าสนใจที่ 27%