บล.กสิกรไทย มองหุ้นปรับฐานหวั่นโควิดรอบใหม่เป็นจังหวะซื้อ แนะนำ BLA-EPG
บล.กสิกรไทย แนะติดตามสถานการณ์โควิดรอบใหม่ หลังหลายประเทศในยุโรปเริ่มกลับมายกระดับมาตรการคุมเข้ม แต่มองหากหุ้นปรับฐานเป็นจังหวะซื้อ เชื่อจะไม่มีการ Full Lockdown จากอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ให้หุ้นเด่นประจำสัปดาห์หน้า BLA และ EPG
บล.กสิกรไทย คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (29 พ.ย. – 3 ธ.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650 จุด +/- ต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในยุโรปที่อาจเป็นปัจจัยสร้างความผันผวนระยะสั้น โดยออสเตรียเป็นประเทศแรกที่กลับมา partial lockdown อีกครั้งหลังจากพบผู้ติดเชื่อใหม่เร่งตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่เยอรมันกำลังประเมินสถานการณ์อยู่เช่นกันว่าจะต้องหันกลับมาเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดหรือไม่ ซึ่งทั้งออสเตรียและเยอรมันถือเป็นสองประเทศในยุโรปที่มีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสต่ำสุดในยุโรปประมาณ 64% และ 67% ของจำนวนประชากรตามลำดับ
ขณะที่ประเทศใหญ่ในยุโรปที่ยังมีอัตราการฉีดครบ 2 โดสน้อยกว่า 70% ได้แก่ ฝรั่งเศส,สวีเดน และสหราชอณาจักร ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในกลุ่มประเทศดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดอังกฤษระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศแอฟริกา ได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้ หลังพบไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 โดย WHO จะประเมินสถานการณ์และศึกษาเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งถูกพบจำนวนเล็กน้อยในแอฟริกาใต้ ว่าจะสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้หรือไม่
ทั้งนี้ Bloomberg ได้ทำ Scenario การเติบโต GDP 4Q21 ของยุโรปเอาไว้ว่ากรณี Base case ก่อนหน้านี้ถ้าหากไม่มีประเทศไหนในยุโรปกลับไป lockdown เลย คาดว่า GDP 4Q21 ยุโรปจะเติบโต +1.1% YoY แต่หากออสเตรียและเยอรมันต้อง partial lockdown 20 วัน คาดว่า GDP 4Q21 อาจขยายตัว +0.9% YoY ส่วนกรณีทั้งยุโรปโดยรวมกลับไป partial lockdown 20 วัน คาดว่า GDP 4Q21 อาจขยายตัวเหลือเพียง +0.4% YoY เท่านั้น
ฝ่ายวิจัยมองว่าสถานการณ์โควิดในยุโรปอาจเป็น sentiment ลบกดดันทิศทางตลาดหุ้นในระยะสั้นโดยเฉพาะกลุ่มหุ้น reopening อย่างไรก็ตามหากหุ้นปรับตัวลงมาเป็นจังหวะในการทยอยสะสมลงทุน เพราะยังคาดว่าสถานการณ์โควิดจะไม่ลุกลามจนต้องกลับไป Full lockdown จากอัตราการฉีดวัคซีนในแต่ละประเทศหลักของโลกในปัจจุบันยังสามารถรับมือกับการระบาดรอบใหม่ได้
หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์หน้า
- BLA (ราคาพื้นฐาน 41.00 บาท) เคาดว่างบ 4Q21 จะรายงานออกมาแข็งแกร่งจากการออก product ใหม่และ combined ratio ที่ต่ำลง ขณะที่แนวโน้ม Bond yield ที่ปรับตัวขึ้นจะช่วยหนุน sentiment บวกต่อบริษัท
- EPG (ราคาพื้นฐาน 14.00 บาท) คาดแรงหนุนของยอดขายทั้ง 3 ธุรกิจจะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดการเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า (FY21A-FY24E) ที่ประมาณ 20% ต่อปี นอกจากนี้ยังมี upsides จาก M&A ด้วยหลังฐานะการเงินจะพลิกเป็น net-cash ปีหน้า ขณะที่บริษัทสามารถส่งต่อต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นผ่านการปรับราคาขายขึ้นได้
ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตาม
-29 พ.ย. : ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.) ตลาคดาด 0.5%, ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย (เดือนต่อเดือน) ( ต.ค.) US ตลาคดาด 1.0%
-30 พ.ย. : ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรม (เดือนต่อเดือน) (ต.ค.) ญี่ปุ่นตลาดคาด -3.2%, ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (พ.ย.) ตลาคดาด 49.7, ภาคการผลิตของจีน (พ.ย.)
-1 ธ.ค. : การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี (ADP) (พ.ย.) US ตลาคดาด 480K, ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (พ.ย.) US ตลาคดาด 61.0
-2 ธ.ค. : ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (ปีต่อปี) (ต.ค.) EU ตลาคดาด 15.2%
-3 ธ.ค. : การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (พ.ย.) US ตลาคดาด 563K