สศอ.คาด GDP อุตฯปีหน้าโต 5% จับตาปัจจัยเสี่ยง “โอไมครอน”
สศอ.เผยแนวโน้มดัชนีผลผลิตอุตฯ ปี 65 ขยายตัว 4-5% จับตาราคาพลังงาน หนี้ครัวเรือน ปัญหาขาดแรงงานภาคการผลิต พร้อมด้วยโควิด-19 ระลอกใหม่
สำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) คาดการณ์ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 2565 ขยายตัว 4.0-5.0% ส่วนจีดีพีภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 2.5-3.5% รวมทั้งปรับประมาณการดัชนี MPI ปี 2564 ขยายตัวขึ้น 5.2% ส่วนจีดีพีภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 3.9%
ทั้งนี้ ต้องจับตาราคาพลังงานที่สูงขึ้น หนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการผลิต การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจากผลกระทบวิกฤติพลังงานและภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในสหรัฐและยุโรปอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลายประเทศกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งจึงอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถานการณ์ภาคการผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นในเดือน ต.ค.2564 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI ขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามามาก สะท้อนได้จากตัวเลขการส่งออกปี 2564 ที่คาดว่าขยายตัว 16% อีกทั้งมีการควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมได้ดี รวมถึงการออกมาตรการลดค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 อาทิ โครงการคนละครึ่ง โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
นอกจากนี้ นโยบายการเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย.2564 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนและแรงงานในภาคอุตสาหกรรมทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ลดลง เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ต.ค.2564 อยู่ที่ระดับ 97.99 ขยายตัว 2.91% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนเกิดการระบายของโรคโควิด-19 โดย 10 เดือนแรก อยู่ที่ระดับ 97.26 ขยายตัว 5.93%
ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือน ต.ค.อยู่ที่ระดับ 64.07 โดย 10 เดือนอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 63.26 ส่งสัญญาณดีขึ้นจากสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแรงงานในสถานประกอบการ ที่ทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ สะท้อนได้จากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมเดือนตุลาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 93.99 เมื่อเทียบกับดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 93.31
ส่วนดัชนีแรงงานในอุตสาหกรรมสำคัญหลายกลุ่มเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนยังคงขยายตัว อาทิ ยานยนต์ขยายตัว 4.14% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัว 12.13% เครื่องปรับอากาศขยายตัว 5.3%
ในขณะที่การคลายล็อกดาวน์ของประเทศคู่ค้าหลายประเทศ ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การผลิตรถยนต์กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ความต้องการซื้อในประเทศและต่างประเทศเริ่มขยายตัวในหลายสินค้า หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว นอกจากนี้มีคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่
สำหรับการส่งออกไทยขยายตัวได้ดี โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือน ต.ค.2564 ขยายตัว 13.86% มูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถังและอากาศยาน) ขยายตัว 12.65% มูลค่า 17,458 ล้านดอลลาร์ และสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ส่วนการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัว 25.39% ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ รวมถึงการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัว 25.52% ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ได้จากการจัดทำระบบชี้นำและเตือนภัยภาคอุตสาหกรรมของ สศอ.พบว่าเดือน พ.ย.2564 มีสัญญาณสถานการณ์การผลิตปกติต่อ เนื่องจากการฟื้นตัวภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ดีขึ้น หลังจากที่ส่งผลกระทบให้ดัชนีหดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2562โดยภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นสอดรับกับการเปิดประเทศและคู่ค้าหลักขยายตัวได้ดีขึ้นตามคำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออกและคาดว่าจะส่งสัญญาณปกติจนถึงเดือน ธ.ค.2564 และเดือน ม.ค.2565