ม.หอการค้า ประเมินส่งออกไทยปี 65 โต 4.8 %
ศูนย์การศึกษาระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย ชี้ ส่งออกไทยปี 65 ขยายตัว 4.8% มูลค่า 275,074 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางปัญหารุมเร้า ทั้งโอมิครอน ค่าเงินบาท เงินเฟ้อ นโยบาย ZERO COVID ของจีน สงครามการค้า ฯ
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้ทำการวิเคราะห์ทิศทางการส่งออกไทยปี 2565 ภายใต้ปัจจัยบวก ปัจจัยลบ และปัจจัยที่ต้องติดตามต่างๆ โดยมองว่าการส่งออกจะขยายตัวลดลงและมีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโคมิครอน ซึ่งศูนย์ฯได้วิเคราะห์ออกเป็นแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
กรณีถ้าโอมิครอน ระบาดในโลกไม่รุนแรง ประเทศไทยจะมีมูลค่าการส่งออก 275,074 ล้านดอลลาร์ หรือขยายตัว 4.8%
กรณีถ้า โอมิครอน ระบาดในโลกอย่างรุนแรง ประเทศไทยจะมีมูลค่าการส่งออก 262,991 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 0.2%
ส่วนปัจจัยบวกต่อการส่งออกที่สำคัญคือ1.เศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้ายังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแต่คาดว่าการฟื้นตัวน้อยกว่าปี 64 2. เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า โดยในปี 2564 ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน 3. หลายประเทศมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้น4. แนวโน้มความต้องการสินค้าสุขภาพและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อที่มากขึ้น
ขณะที่ปัจจัยลบที่ต้องติดตามคือ 1. การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศจากสายพันธุ์โอมิครอน 2. ปัญหาเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ ที่ลดทอนกำลังซื้อของผู้บริโภค 3. นโยบาย Zero Covid ของจีน 4. ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางสูง 5. ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้น 6. ปัญหาการสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Disruption)
นายอัทธ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ต้องติดตาม คือ 1. ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2565 2. รถไฟลาว-จีน 3. นโยบายการเปิด ปิดประเทศของประเทศคู่ค้าหรือมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่อาจเข้มงวดขึ้นของประเทศคู่ค้า 4. สงครามการค้า เทคโนโลยี ค่าเงินระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ 5. ภาษีคาร์บอนตลาดยุโรปในปี 2566