HMPRO ประมาณการ 4Q64F: คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ HMPRO ใน 4Q64F จะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+2% YoY, +81% QoQ) ซึ่งจะเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบปีนี้ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ จะเป็นเพราะฐานที่ต่ำในช่วงที่มีการใช้มาตรการ lockdown
ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะมีการจัดงาน HomePro Super Expo ใน 4Q64 ซึ่งจะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2564F อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท (+2% YoY)
ยอดขายยังใช้ได้
เราคาดว่ายอดขายของ HMPRO ใน 4Q64F จะอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท (+8% YoY, +22% QoQ) ทำให้
ยอดขายในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 6 หมื่นล้านบาท (+4% YoY) จากสภาวะตลาดที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
และการจัดงาน HomePro Super Expo ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ฟื้นตัวขึ้นเป็น 44.9 ใน
เดือนพฤศจิกายน 2564 (Figure 1) ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบเจ็ดเดือน ดังนั้น เราจึงคาดว่า SSSG ใน
4Q64F จะอยู่ที่ 8% (จาก -6.3% ใน 4Q63 และ -11.0% ใน 3Q64) ทำให้ SSSG ปี 2564 อยู่ที่ 2.8% ทั้งนี้
เราคาดว่า HMPRO จะเปิดสาขาใหม่หนึ่งร้านใน 4Q64 ทำให้จำนวนสาขารวมเพิ่มขึ้นเป็น 116 ร้าน (109
ร้านอยู่ในประเทศไทย และอีก 7 ร้านอยู่ในประเทศมาเลเซีย)
อัตรากำไรขั้นต้นยังเพิ่มขึ้นอีก
เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ HMPRO ใน 4Q64F จะอยู่ที่ 26% (+0.3ppts YoY, +0.88ppts QoQ) ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 เป็นไปตามเป้าของบริษัทที่ 25.5% (+30bps) โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นไปตามยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้น ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ จะเป็นเพราะฐานที่ต่ำเนื่องจากมีการปิดสาขาร้านชั่วคราวใน 3Q64 เราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะเพิ่มขึ้น QoQ เป็น 2.7 พันล้านบาท เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ และมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19อ ย่างไรก็ตาม ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจะทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงเป็น 16.9% ใน 4Q64F (จาก19.5% ใน 4Q63 และ 19.4% ใน 3Q64) ในขณะที่เราคาดว่า EBIT margin จะอยู่ที่ 12.9% ใน 4Q64F
Valuation & action
เนื่องจากกิจกรรมทางธุรกิจกลับมาหลังจากที่มีการเปิดประเทศ เราจึงคาดว่าผลประกอบการของ HMPRO น่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ตามคาด และโต 12% YoY ในปี 2565F ถึงแม้ว่าความเสี่ยงจากสายพันธุ์ Omicron อาจจะทำให้จังหวะการฟื้นตัวของกำไรแผ่วลง แต่บริษัทน่าจะผ่านช่วงที่ผลประกอบการได้รับผลกระทบหนักที่สุดไปแล้ว ดังนั้น เราจึงยังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 เอาไว้เท่าเดิมที่ 16.00 บาท อิงจาก PER ที่ 36.0x (ค่าเฉลี่ยของ Siam Global House (GLOBAL.BK/GLOBAL TB)* และ HMPRO +1.0 S.D.) และ คงคำแนะนำ “ซื้อ”
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้า
ค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก