สวัสดีปีใหม่ – สรุปมุมมองการลงทุนปี 2565
มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในช่วง 4-5 เดือนแรก จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของ ASEAN ที่ได้ผลดีจากการเปิดเมือง (re-opening boom)
ส่งผลให้ GDP ปี 2565 เติบโตขึ้นกว่าปี 2564 (ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีกว่าประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ที่การเติบโตเศรษฐกิจในปี 2565 จะเริ่มชะลอตัวลง) ทำให้เราประเมิน ASEAN เป็นภูมิภาคที่มีโอกาสได้รับจัดสรรเงินลงทุน (allocation) หรือน้ำหนักการลงทุน (weighting) เพิ่มขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นบวกต่อทิศทางเงินทุนไหลเข้า (Fund flow) ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่การบริโภคคาดจะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่อง
ความท้าทายและโอกาสในครึ่งปีหลังมี
การสิ้นสุดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรปและสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 2/65 รวมถึงการดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความต้องการเงินทุนเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ เป็นความเสี่ยงที่มีโอกาสกดดันให้ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่อการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีความเสี่ยงที่ต้องจับตาอื่น ได้แก่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและชาติมหาอำนาจอื่น สำหรับประเทศไทยประเด็นจับตาโอกาสในครึ่งปีหลังมาจาก 1) การย้ายฐานการผลิตจากจีน 2) การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและภาคบริการที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและการเปิดประเทศหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
ผันผวนช่วงต้นปี เป็นโอกาสลงทุน
เรามองมี 3 ปัจจัยที่อาจทำให้ตลาดช่วงต้นม.ค.65 ผันผวน แต่น่าจะเปิดโอกาสในการเข้าลงทุนที่ดี ได้แก่
1) การระบาดของสายพันธ์โอไมครอนที่อาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้น
2) การไถ่ถอน LTF ที่ครอบกำหนด 7 ปี ราว 1.5-2 หมื่นล้านบาท
3) ผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 4/64 ที่ถือว่าอ่อนแอที่สุดของปี (แต่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีในไตรมาส 1/65)
เรามองปัจจัยข้างต้นเป็นปัจจัยผันผวนระยะสั้น แต่ไม่กระทบกับมุมมองเชิงบวกของการลงทุน ดังนั้นความผันผวนที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสลงทุน
ธีมการลงทุนปี 2565
การฟื้นตัวเปลี่ยนจากการผลิต มายังภาคบริการ ซึ่งหนุนการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ เป็นบวกต่อหุ้นธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ สื่อสาร ค้าปลีก บันเทิง
โดยมีหุ้นเด่นคือ : KBANK, CPN, ADVANC, ONEE, WHA, BANPU, OR
หุ้นม้ามืด ที่เราชอบ ได้แก่ : TKN, FSMART, RAM, SFT
ประเมินเป้าหมาย SET Index ที่ 1820 จุด อิง PER 18.5x และ EPS ปี 2565 ที่ 98.4 บาท/หุ้น ขณะที่ประเมินกรอบแนวต้านสำคัญของ SET ในช่วงไตรมาส 1/65 ที่ 1740 จุด อิง PER 18.5x และ EPS เฉลี่ยปี 64-65 ที่ 94 บาท/หุ้น
ภาพรวมกลยุทธ์ : ฟื้นตัว เน้นหุ้นบริโภคในประเทศ / หุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวตามภาคการบริโภค / หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับเพิ่มของผลตอบแทนพันธบัตร / และที่มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากทิศทางเงินทุนไหลเข้า สำหรับผู้เก็งกำไร ไม่หลุด 1,640 จุด โมเมนตัมการเก็งกำไรไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นแนะนำ: KBANK*, BLA*, THRE*, TKN*
แนวรับ: 1,640 / แนวต้าน : 1,660-1,680 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
FDA ไฟเขียวฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 ให้เด็กอายุ 12-15 ปี - FDA สหรัฐ อนุมัติการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ของไฟเซอร์/ไบออนเทคสำหรับเด็กที่มีอายุ 12-15 ปี
จับตาโอเปคพลัสประชุมพรุ่งนี้ – โอเปคพลัสจะจัดการประชุมในวันพรุ่งนี้ เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนก.พ.
อินโดนีเซียห้ามส่งออกถ่านหินเดือนนี้ - อินโดนีเซียห้ามส่งออกถ่านหินในเดือนมกราคมเนื่องจากกังวลว่าจะมีซัพพลายให้กับโรงไฟฟ้าในประเทศน้อย คาดกระทบจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่สุด
ส.ประกันวินาศภัยตามติดโอมิครอนตัวแปรเคลมพุ่ง - สมาคมประกันวินาศภัยเผยปี 2565 ยังเป็นตัวแปรสำคัญของการจ่ายเคลมที่อาจพุ่งเกิน 4 หมื่นล้านบาท พร้อมติดตามใกล้ชิดหลังเห็นยุโรปกลับมาระบาดหนัก
ประเด็นติดตาม: - 20 ม.ค. – ผลประกอบการกลุ่มธนาคาร / 26 ม.ค. – Fed meeting
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)