อสังหาฯจ่อขยับราคา3-5%หลังต้นทุนวัสดุ-แรงงานพุ่ง
สถานการณ์ราคาต้นทุนวัตถุดิบเหล็กน้ำมันและแรงงานปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปี64 ได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้างอย่างมากจนกระทั้งปี65ส่งผลให้ค่ายอสังหาฯเตรียมขยับราคาขึ้น3-5%หลังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและดีมานด์ซัพพลายด์ในตลาดเริ่มกลับมาสู่จุดสมดุล
"อาภา อรรถบูรณ์วงศ์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสงครามราคาที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปี2563 ต่อเนื่องมาจนถึง2563 สต็อกเก่าส่วนหนึ่งถูกระบายออกไปหมดแล้ว ส่วนที่กำลังขายใหม่ในปีนี้ จะมีทั้งสต็อกเก่าและใหม่ผสมกัน ราคาผสมกันแต่พอสต็อกเก่าหมดไปเรื่อยๆเป็นสต็อกใหม่ต้นทุน ใหม่ ราคาต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน ฉะนั้นจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อราคาขายที่ต้องปรับเพิ่มขึ้น 3-5% ที่จะต้องปรับขึ้นแน่นอน
แนวทางการจัดการกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ในยุคนี้ คงต้องยอมรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและไปลดค่าบริหารจัดการ ที่ยังพอจะบีบลดได้มากกว่าเพื่อมาทดแทน ค่าวัสดุที่เพิ่มขึ้น แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ต้องซื้อแพงและขายแพงขึ้น!!
รวมทั้งค่าแรงงานก็เช่นกัน เพราะตั้งแต่เกิดโควิดในช่วงที่มีการระบาดหนักแรงงานต่างด้าว90% กลับประเทศเมื่อการระบาดลดลง ยังไม่สามารถกลับมาได้ ทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน ส่งผลงานก่อสร้างในปัจจุบันมีจำนวนแรงงานไม่เพียงพอ ส่งผลให้ความคืบงานการทำงานเกิดความล่าช้าทุกโครงการ 10-20% กว่าแผนงานที่วางไว้ และที่สำคัญต้นทุนค่าแรงงานแพงขึ้น!!
สอดคล้องกับที่“อุทัย อุทัยแสงสุข” ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจุบันดีมานด์และซัพพลายในตลาดอสังหาณกลับเข้ามาสู่จุด “สมดุล” แล้ว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ประกอบกับแสนสิริมีสต็อกไม่ถึงหมื่นล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยว ทาว์โฮมสต็อกน้อยไม่ถึง2,000 ล้านบาท จึง “ไม่มี”ความจำเป็นทำสงครามราคา อีกต่อไป แต่หันมาให้ความสำคัญเรื่องบริการหลังการขาย คุณภาพสินค้าให้กับลูกค้ามากขึ้น
ซึ่งเป็นไปตามที่ "วิชัย วิรัตกพันธ์" ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ไว้ว่า ในปี 2565 ราคาบ้านจะปรับขึ้น ! เพราะต้นทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้มีการปรับลดลงทำให้ผู้ประกอบการจะเริ่มตัดโปรโมชั่น การลดราคา และแจกของแถมลง ดังนั้นปี 65 ราคาอสังหาฯ ขยับขึ้นแน่นอน