คลังชี้ลดภาษีน้ำมันไม่แก้ปัญหาราคาสินค้าแพง
คลังชี้ราคาสินค้าพุ่งกระทบต่อเงินเฟ้อ เชื่อการใช้จ่ายของประชาชนจะอยู่ในภาวะปกติ เหตุกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงเดินหน้า รับศึกษาลดภาษีน้ำมัน แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ หวั่นกระทบรายได้ ขณะที่ อัตราภาษีเป็นต้นทุนที่ต่ำในราคาสินค้า
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงกรณีราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ว่า เรื่องราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น อาจทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้น ส่วนการใช้จ่ายของประชาชนนั้น จะขึ้นอยู่กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ การดำเนินมาตรการเกี่ยวกับการบริหารจัดการการแพร่ระบาดโควิด-19 ของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.)ก็ดูเป็นพื้นที่ๆไป ฉะนั้น ก็เชื่อว่า การใช้จ่ายประชาชนจะยังอยู่ในภาวะปกติ
“แน่นอนว่า เรื่องราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั้น จะกระทบต่อรายจ่ายของประชาชน สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการได้ คือ ต้องดูแลราคาสินค้าไม่ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก โดยกระทรวงพาณิชย์ก็มีการดูแลในเรื่องดังกล่าวอยู่”
เขากล่าวด้วยว่า สถานการณ์เงินเฟ้อเป็นหนึ่งในประเด็นที่ท้าทายการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยอัตราเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นนั้น เกิดจากราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเรื่องราคาสินค้านั้น รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯเข้าไปกำกับดูแล ส่วนราคาพลังงานนั้น มอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปดูแลไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลเกินกว่า 30 บาทต่อลิตร โดยกองทุนน้ำมันจะเข้ามาเป็นกลไกช่วยเรื่องของราคาน้ำมัน
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะนำข้อเสนอของกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับการลดอัตราภาษีน้ำมันเพื่อช่วยลดปัญหาค่าครองชีพแพงในขณะนี้มาพิจารณา โดยจะต้องศึกษาว่า อัตราภาษีน้ำมันนั้น คิดเป็นต้นทุนในสัดส่วนเท่าไหร่ต่อราคาสินค้า หากปรับลดแล้วจะช่วยให้ราคาสินค้าปรับลดลงหรือไม่ โดยต้องพิจารณาควบคู่ไปกับผลกระทบเรื่องของรายได้รัฐที่จะหายไปจากการปรับลดภาษีดังกล่าวด้วย
“เรายังบอกไม่ได้ว่า จะลดภาษีน้ำมันลงหรือไม่ ขอไปศึกษาให้รอบคอบก่อน เพราะน้ำมันแต่ละอย่างก็มีอัตราภาษีที่ไม่เท่ากัน การดูเรื่องของภาษีเพื่อผ่อนคลายค่าครองชีพประชาชน ถ้าจำเป็น เราก็ต้องดู อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นนั้น เราเห็นว่า ต้นทุนราคาสินค้าที่เกิดจากอัตราภาษีนั้น มีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับต้นทุนจากปัจจัยอื่น”เขากล่าวและว่า ปัจจุบัน เรื่องการใส่เงินสมทบกองทุนน้ำมัน เพื่อดูแลราคาพลังงานนั้น ทางกระทรวงการคลังก็ได้ดูแลให้มาโดยตลอด