"หุ้นไทย" ร่วงหนัก 25.57 จุด หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ลดขนาดงบดุล

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 ม.ค.2565) แกว่งตัวลงในแดนลบตลอดภาคเช้า โดยปรับลงทำจุดต่ำสุดที่ 1,617.87 จุด ลดลง 25.57% ขณะที่ปัจจุบัน (12.00 น.) ยังแกว่งตัวในแดนลบต่อเนื่องบริเวณ 1,625 ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.4 หมื่นล้าน

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภายหลังยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวมากกว่าที่คาดการณ์ และมีความเสี่ยงที่ดอกเบี้ยอาจต้องเร่งขึ้นเร็วกว่าเดิม

ในการนี้ บล.โนมูระ ปรับมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้เป็น 5 ครั้ง จากเดิม 4 ครั้ง และคาดว่าการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มี.ค.จะเพิ่มขึ้น 0.50% จากเดิม 0.25% ขณะที่การลดขนาดงบดุลคาดว่าจะเกินขึ้นในช่วงการประชุมเดือน พ.ค. หรือภายในครึ่งแรกของปีนี้

ขณะที่การลงทุนในยามที่ตลาดปรับลง แนะนำลดน้ำหนักการลงทุนก่อน ก่อนจะตั้งรับบริเวณแนวรับที่ 1,600-1,620 จุด โดยเลือกหุ้นที่เหมาะแก่การลงทุนในระยะกลางถึงยาว ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร ADVANC TRUE จากแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้น กลุ่มธนาคาร KBANK SCB KTB รับดอกเบี้ยขาขึ้น

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ตามธีมหุ้นคุณค่า (Value Play) และปันผลสูง AP SPALI รวมถึงกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) GPSC KCE

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยเช้านี้ถูกกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ตลาดหุ้นเอเชียเหนือที่ถูกกระทบจากความกังวลในคาบสมุทรเกาหลีและแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดตรุษจีนสัปดาห์หน้า (31 ม.ค. - 4 ก.พ.) รวมถึงแรงขายกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า

สำหรับการลงทุน แนะนำปรับพอร์ตถือเงินสด 50% ส่วนพอร์ตหุ้น 50% แนะนำย้ายเข้ากลุ่ม Value Play ที่มูลค่า (Valuation) ยังปรับขึ้นไม่มาก และให้ปันผลสูง เช่น กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มธนาคาร โดยเลือก SPALI SC TISCO KBANK SCC และ TEAMG เป็นหุ้นเด่น