“ดาว” ผนึก 7 องค์กร อนุรักษ์ป่าชายเลน "ลดโลกร้อน-ขยะทะเล" ยั่งยืน
"ดาว-ทช." ผนึก 6 องค์กร ยกระดับอนุรักษ์ป่าชายเลน "Dow & Thailand Mangrove Alliance" หนุนเยาวชนเรียนรู้เรื่องป่าชายเลน ชูแอปพลิเคชั่น iNaturalist ดึงทุกภาคส่วนร่วมลดภาวะโลกร้อนและลดขยะทะเลแบบยั่งยืน
นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (DOW) กล่าวว่า ป่าชายเลนมีส่วนช่วยในการแก้วิกฤตสภาวะโลกร้อน เสมือนตะแกรงธรรมชาติ คอยดักกรองมลพิษและขยะไม่ให้ลงสู่ทะเล ดาวจึงได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 13 ปี และก่อตั้งความร่วมมือ “ดาวและภาคีป่าชายเลนประเทศไทย” หรือ Dow & Thailand Mangrove Alliance โดยนำร่องโครงการในพื้นที่ป่าชายเลนของเทศบาลตำบลปากน้ำประแสในปี2563 ล่าสุดร่วมกับ 4 พันธมิตรใหม่รวมเป็น 8 องค์กร
โดยปีนี้ ได้สนับสนุนการดำเนินงานด้านคาร์บอนเครดิต สร้างองค์ความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพของป่าชายเลนของไทยให้มีความสมบูรณ์ ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว Blue carbon destination เชิงนิเวศครบวงจร สร้างต้นแบบการจัดการขยะทะเลในชุมชนริมน้ำ และเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนร่วมสำรวจสิ่งมีชีวิตในป่าชายเลนด้วยแอปพลิเคชัน iNaturalist ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย เนชั่นแนล จีโอกราฟิก ให้เยาวชนและนักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมสำรวจห้องเรียนธรรมชาติ สร้างความตื่นตัวในการ่วมมือฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าเพิ่มขึ้น เพื่อร่วมกันลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและขยะทะเลตามแผน ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2563-2567) เพื่อยกระดับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนอ่าวไทย-ทะเลอันดามันไปสู่ระดับสากล
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลนเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่ต้องสร้างเครือข่ายร่วมกันฟื้นฟูและแก้ปัญหา เพื่อให้การอนุรักษ์ป่าชายเลนประสบความสำเร็จและยั่งยืน ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาระบบบริหารจัดการป่าชายเลนแบบมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐ เอกชนและชุมชน ครั้งสำคัญของไทย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายให้ไทยบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี2608
ดร.ดินโด แคมปิลัน ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย และผู้อำนวยการศูนย์กลางภูมิภาคเอเชียและโอเชียนเนีย องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ กล่าวว่า ภาคธุรกิจมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการปกป้องและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ป่าชายเลนแม้มีพื้นที่ไม่เยอะเมื่อเทียบกับพื้นที่ป่าประเภทอื่น แต่สำหรับบทบาทของระบบนิเวศชายฝั่งแล้ว ป่าชายเลนช่วยกักเก็บคาร์บอนได้มากถึง 14% ของสัดส่วนการกักเก็บคาร์บอนในทะเลของโลก
ดร.ฉวีวรรณ หุตะเจริญ ประธานมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงตรัสไว้ว่า “การปลูกป่าต้องปลูกที่หัวใจไม่ใช่เพียงปลูกลงบนพื้นดิน” ซึ่ง FEED จะประเมินศักยภาพในพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ เพื่อเป็นศูนย์การศึกษาเส้นทางธรรมชาติและออกแบบกิจกรรมร่วมกับชุมชนและท้องถิ่น นำนักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ เป็นการต่อยอดโครงการฯ ให้สมบูรณ์ขึ้น
ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ประธานมูลนิธิโลกสีเขียว กล่าวว่า โครงการนักสืบป่าชายเลนจะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เป็นเรื่องน่าสนุกและน่าค้นหา โดยในปี2565 มีเป้าหมายจัดค่ายนักสืบป่าชายเลนให้กับเยาวชน 2 ครั้ง เพื่อสร้าง Generation Restoration ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนในการสนับสนุนเป้าหมายขององค์การสหประชาติ ทศวรรษแห่งการฟื้นฟูระบบนิเวศ
นางสาววรางคณา รัตนรัตน์ ผู้อํานวยการแผนงานประเทศไทย ศูนย์ฝึกอบรมวนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า กล่าวว่า รีคอฟจะมีบทบาทรับผิดชอบในเรื่องการพัฒนาหลักสูตรให้กับโรงเรียนในพื้นที่เป้าหมายในเรื่องการสำรวจและเพื่อการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและภาวะโลกรวน โดยจะเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมทั้งของคุณครู นักเรียน และชุมชน ได้รู้จักและเห็นความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพของชุมชนตนเอง และเพื่อนำไปสู่การจัดการที่ยั่งยืนต่อไป
นายนิก สุภัทรวณิชย์ ผู้จัดการโปรแกรม บริษัท SecondLife กล่าวว่า ต้องสร้างมูลค่าขยะพลาสติกในทะเลเราไม่เพียงแต่สนับสนุนห่วงโซ่การรวบรวมพลาสติกทะเลในระดับท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อดำเนินการเปลี่ยนขยะพลาสติกเหล่านี้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น สร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับชุมชนและประสิทธิภาพการจัดการขยะโดยรวมของประเทศ