NUSA ตั้งเป้าล้างขาดทุนเกลี้ยงปี 66 เข็น ‘เวิลด์ เมดิคอล’ เข้าตลาดปีนี้
ณุศาศิริ กางแผนปี 65 คาดรายได้ทะยานแตะ 4 พันล้านบาท ตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยงปี 2566 ลุ้นกลับมาจ่ายเงินปันผลครั้งแรกรอบ 7 ปี จ่อรุกธุรกิจพลังงานเพิ่มทั้งใน และต่างประเทศ จ่อนั่งแทนผู้ผลิตธุรกิจกัญชง กัญชา รายใหญ่ ก.พ.นี้ พร้อมเข็น ‘เวิลด์ เมดิคอล’ เข้าตลาดปีนี้
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA กล่าวว่า สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานของบริษัทปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นปีที่รายได้เติบโตก้าวกระโดด หรือแตะระดับ 4,000 ล้านบาท โดยมาจากการดำเนินธุรกิจต่างๆ ภายใต้ “โฮลดิ้ง คอมพานี” ราว 3,000 ล้านบาท และการรับรู้รายได้จากการขาย “เลเจนด์ สยามพัทยา” ออกไปบางส่วน ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้กลับเข้ามาราว 600 ล้านบาท
และยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งและดำเนินงานปีนี้คือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับกัญชงกัญชา ที่บริษัทได้ร่วมกับนักลงทุนชาวจีนในการดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่า จะสามารถเปิดตัวได้ ในเดือนก.พ.นี้ ซึ่งจะเป็นส่วนหนุนให้รายได้บริษัทเติบโตได้ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม มองว่าผลการดำเนินงานที่จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการปรับโครงสร้างของบริษัท ที่เน้นไปสู่ธุรกิจที่ให้ผลตอบแทน หรือมาร์จิ้นมากขึ้น ที่จะเห็นการเข้าไปรุกมากขึ้น เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับด้านสุขภาพ เวลเนส ที่คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ในปีนี้ได้ระดับ 1.3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 800 ล้านบาท จากการเติบโตในส่วนของการเป็นผู้นำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์
โดยเฉพาะชุดตรวจ ATK ที่ปัจจุบันมีกำไรจากการขายค่อนข้างมาก และมีดีมานด์ต่อเนื่อง โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา สร้างยอดขายให้กับบริษัทแล้ว 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการขออนุญาตจำหน่ายชุดตรวจ ATK แบบอมในปาก กับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม การรุกในส่วนของธุรกิจเวลเนส และพลังงาน เทคโนโลยีต่างๆ จะทำให้โครงสร้างรายได้ของธุรกิจจะเริ่มปรับเปลี่ยนตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป โดยสัดส่วนสู่ธุรกิจเวลเนส ด้านสุขภาพมากขึ้น พลังงาน มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นรายได้หลัก ขณะที่ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์สัดส่วนจะลดลง โดยตั้งเป้าอสังหาฯ ลดลงเหลือกว่า 30% ในปี 2566 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 51%
ผลงานพลิกกำไรปี 2566
อย่างไรก็ตาม จากการมุ่งไปสู่ธุรกิจที่ไฮมาร์จิ้น รวมถึงแผนการทยอยขายแลนด์แบงก์บางส่วน จะส่งผลให้บริษัทจะสามารถพลิกขาดทุนสะสม มาเป็นกำไรได้ในปี 2566 นี้
ซึ่งหากมีกำไรสุทธิ บริษัทก็พร้อมกลับมาพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอีกครั้ง หลังจากไม่มีการจ่ายปันผลมาในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา
“ปัจจุบันเรามีขาดทุนสำรองอยู่กว่า 3 พันล้านบาท โดยคาดว่า จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ บวกกับการขายแลนด์แบงก์บางส่วน จะทำให้ขาดทุนสะสมลดลงได้ในปีนี้เกือบครึ่ง และจะเห็นการกลับมาพลิกเป็นกำไรจากการดำเนินงานได้ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป”
รุกธุรกิจพลังงานเพิ่มมาร์จิ้น จ่อลงทุนเพิ่มลาว - เวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ในด้านการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างมาร์จิ้นที่สูงขึ้น และรายได้ที่คงที่แน่นอน ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเข้าลงทุนในส่วนของธุรกิจพลังงานเพิ่มเติม
โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) เพื่อแลกหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) กับผู้ถือหุ้นรายย่อย ในสัดส่วน 8% เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง และอนาคตหากมีโอกาสก็มีความสนใจในการเข้าถือหุ้นในวินด์เพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้การเข้าลงทุนในวินด์ครั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมี.ค. จากการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจในการลงทุนในธุรกิจพลังงานเพิ่มเติม ทั้งธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ทั้งในลาว และเวียดนาม รวมถึงในไทย โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนในการเข้าไปลงทุนได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป
มีแผนดันบริษัท ‘เวิลด์ เมดิคอล’ เข้า ตลท.ปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า บริษัทมีแผน นำบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (WMA) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(ตลท.)ด้วยในปีนี้ จากธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ที่เติบโตต่อเนื่อง
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์