จิตวิทยาการลงทุนยังคงปรับดีขึ้น (1 ก.พ. 65)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวนำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี DJIA (+1.17%), S&P500 (+1.89%) ขณะที่ Nasdaq (+3.41%) หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นในระดับ 2-5%
โดยดัชนีเซมิคอนดัคเตอร์ (Philadelphia semiconductor - SOX) เพิ่มขึ้น +5.44% เป็นปัจจัยบวกทางวิทยาต่อการฟื้นตัวหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตามหุ้น TXN (+1.24%) ที่มสหสัมพันธ์สูงกับดัชนีอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้การให้แนวโน้มล่วงหน้า (forward guidance) ของหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ที่น่าจะชะลอตัวลง QoQ โดยเฉพาะกำไรสุทธิ ดังนั้นเรามองการฟื้นตัวของหุ้นอิเล้กทรอนิกส์เป็นเพียงการฟื้นตัวทางเทคนิคระยะสั้น ผู้เก็งกำไรควรกำหนดจุดทำกำไรและตัดขาดทุนในทุกครั้ง
แนวโน้มการลงทุนก.พ.65 เป็นบวก ก่อนตลาดจะกลับมากังวลนโยบายเฟดในการประชุมกลางมี.ค. เราประเมินตลาดหุ้น ก.พ.65 มีแนวโน้มเป็นบวกกว่าช่วง ม.ค. 65 ที่ผ่านมา เนื่องจาก 1) ตลาดรับรู้ความเสี่ยงเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ที่อย่างน้อย 4 ครั้ง และเริ่มที่ มี.ค.แล้ว 2) การรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/64 ส่วนใหญ่มีทิศทางฟื้นตัวดี และได้อานิสงค์ฟื้นตัวหลังการระบาดและล้อคดาวน์ในช่วงไตรมาส 3/64 3) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการเงินของทั้ง ECB/FED ในช่วงเดือนนี้ อย่างไรก็ตามตลาดอาจกลับมาผันผวนในช่วงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 15-16 มี.ค.65 ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของหลายอุตสาหกรรมที่จะประกาศช่วง พ.ค.65 มีแนวโน้มที่จะอ่อนแอลง YoY จะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นในช่วงเม.ย.-พ.ค. ผันผวน
ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ บวกต่อ CK, STEC, ITD, UNIQ 2) กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ตลาดเก็งกำไรการเข้าสู่ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล และผลประกอบการปี 2564 ที่น่าจะเห็นการจ่ายปันผลในระดับที่ดี อย่างไรก็ตามยังมีความไม่ชัดเจนของภาพรายได้ปี 2565 อีกมาก การเก็งกำไรจึงควรกำหนจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง KGI, ASP, CGH, FSS 3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC, ASW 4) กลุ่มบันเทิง ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากงบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO 5) หุ้นเก็งกำไรทางเทคนิค อาทิ SFT, WFX, CV, UBE, VPO, CPI, TOP, GJS, RAM, IND, MAKRO
ภาพรวมกลยุทธ์: คาดความผันผวนจะทยอยลดลง และจิตวิทยาของตลาดทยอยปรับดีขึ้นจากแนวโน้มการรายงานผลประกอบการ แม้อาจเกิดแรงซื้อคืนกลุ่มที่ลงมาเยอะ เช่น อิลเล็กทรอนิกส์ แต่ไมได้เปลี่ยนภาพใหญ่ ที่เป็นการเกิด rotation จากการขายลดกลุ่มผู้ชนะจากโควิด และหมุนไปยังกลุ่มที่ปลอดภัยหรือ Valuation ต่ำ รวมทั้งที่ได้ประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้นขาขึ้น //หุ้นแนะนำ: PTTEP*, WHAUP*, TWPC*, SUPER*
แนวรับ: 1,630-1,637 / แนวต้าน : 1,650-1,660 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
โกลด์แมน แซคส์หั่นคาดการณ์ GDP สหรัฐปีนี้เหลือ 3.2% - จาก 3.8% สะท้อนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงต้นปี เนื่องจากมาตรการสนับสนุนด้านการคลังลดลง และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
GDP ยูโรโซนโตชะลอ รับผลกระทบโอไมครอน - ยูโรโซนรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4/64 โตเพียง 0.3% สอดคล้องคาดการณ์ตลาด และชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 2.3% รับผลกระทบไวรัสโอไมครอนแพร่ระบาด
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค.โต 6.83% - สศอ.รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ธ.ค.64 อยู่ที่ระดับ 102.59 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.83% YoY และปรับตัวดีขึ้นจากเดือน พ.ย.ที่ 4.91% ส่งผลให้ในปี 64 ขยายตัวเฉลี่ย 5.93%
คนละครึ่งเฟส 4 เริ่มวันนี้ - ผู้ได้รับสิทธิ์ เติมเงินพร้อมใช้ ส่วนผู้ประกอบการ ร้านค้า ลงทะเบียนร่วมได้ทุกวันจนกว่าคลังปิดรับสมัคร พร้อม ส่วนคนที่ไม่เคยลทะเบียน ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่ 10 ก.พ. จนกว่าจะครบประมาณ 1 ล้านสิทธิ เริ่มใช้วันแรก 17 ก.พ.
PRM - เตรียมรับเรือ VLCC อีก 2 ลำภายในปีนี้ หนุนเพิ่มรายได้ประจำ
ประเด็นติดตาม: 4 ก.พ. – TH CPI เดือน ม.ค. / 3 ก.พ. - BOE Meeting, ECB Meeting
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)