“ทัวร์เที่ยวไทย” ขยายเวลาโครงการ ออกเดินทาง 8 ก.พ.-30 เม.ย.65
“ทัวร์เที่ยวไทย” ขยายเวลาโครงการ ออกเดินทางได้ตั้งแต่ 8 ก.พ.-30 เม.ย.65 ส่องแพ็คเกจทัวร์น่าสนใจ เส้นทางเที่ยว “เบตง” และ “สายมู” แถบอีสานเหนือ เยือนถ้ำนาคา ถ้ำนาคี คำชะโนด
รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า หลังจากวันที่ 24 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ฯ อนุมัติโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ให้ขยายระยะเวลาโครงการเป็น 1 ก.พ.-31 พ.ค.2565
ตามวัตถุประสงค์เพื่อเร่งผลักดันมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบ และเป็นการฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศที่ซบเซา เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ได้มีการปรับลดจำนวนสิทธิเหลือ 2 แสนสิทธิ (1 คน ต่อ 1 สิทธิ) จากเดิม 1 ล้านสิทธิ และปรับลดวงเงินงบประมาณโครงการฯเหลือ 1,000 ล้านบาท จากเดิม 5,000 ล้านบาท
โดยกำหนดให้ประชาชนลงทะเบียนและซื้อรายการนำเที่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2565 เป็นต้นไป สามารถใช้สิทธิออกเดินทางได้ตั้งแต่ 8 ก.พ.-30 เม.ย.2565
ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว “รายเดิม” ที่มีการลงทะเบียนในเว็บไซต์ ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย แล้ว จะมีการเปิดจองรายการนำเที่ยวเดิมตั้งแต่ 1 ก.พ.2565 ส่งรายการนำเที่ยวใหม่ 7 ก.พ.-15 มี.ค.2565 ประชาชนที่มาใช้สิทธิออกเดินทางทริปแรก 8 ก.พ.-30 เม.ย.2565 และต้องส่งรายการนำเที่ยวครั้งสุดท้าย 15 มี.ค.2565
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว “รายใหม่” (ยังไม่ได้ลงทะเบียนในเว็บไซต์) สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย ตั้งแต่ 7 ก.พ.2565 เป็นต้นไป โดยสามารถส่งรายการนำเที่ยวได้ตั้งแต่ 7 ก.พ.-15 มี.ค.2565 และต้องส่งรายการนำเที่ยวครั้งสุดท้าย 15 มี.ค.2565
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการขยายโครงการฯ สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจะถูกนับต่อจากสิทธิเดิม ไม่มีการขยายหรือนับสิทธิใหม่ โดยกำหนดให้สามารถนำเสนอรายการนำเที่ยวได้ 30 รายการ ต่อ 1 บริษัท และ 1 บริษัทสามารถขายแพ็คเกจท่องเที่ยวได้สูงสุด 1,000 สิทธิเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของทัวร์เที่ยวไทย ณ วันที่ 6 ก.พ.2565 ระบุว่า มียอดการใช้สิทธิแล้ว จำนวน 30,183 สิทธิ คงเหลือ 169,817 สิทธิ จากทั้งหมด 200,000 สิทธิ
สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากประชาชนที่ใช้สิทธิโครงการทัวร์เที่ยวไทย อาทิ เส้นทางท่องเที่ยวเบตง ส่วนใหญ่โปรแกรมจะประกอบด้วย ขึ้น Skywalk ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หอนาฬิกาเบตง สวนหมื่นบุปผา บ่อน้ำร้อนเบตง ป้ายใต้สุดสยาม วัดช้างไห้ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
รวมถึงเส้นทางสายมู แถบอีสานเหนือ เช่น เส้นทางอุดรธานี-บึงกาฬ โปรแกรมไฮไลต์มีเที่ยววัดป่าภูก้อน วัดผาตากเสื้อ ชมพระอาทิตย์ขึ้นจุดชมวิวหินสามวาฬ วัดภูทอก คำชะโนด ทะเลบัวแดง
เส้นทางนครพนม-บึงกาฬ โปรแกรมไฮไลต์มี พระธาตุเรณู พระธาตุพนม ชมพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวหินสามวาฬ อุทยานแห่งชาติภูลังกา ถ้ำนาคา บึงโขงหลง ศาลปู่อือลือนาคราช ถ้ำนาคี
นอกเหนือจากโครงการทัวร์เที่ยวไทยแล้ว ยังมีอีกโครงการที่รัฐบาลต้องการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ นั่นก็คือ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4" จำนวนสิทธิ 2 ล้านสิทธิ (ห้อง) กรอบวงเงิน 9,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน ก.พ.- ก.ค.2565 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้สิทธิแก่ประชาชนคนละไม่เกิน 10 สิทธิ โดยรัฐจะช่วยสนับสนุน ดังนี้
-ค่าโรงแรมที่พัก 40% ของราคาห้องพัก สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน
-รับคูปอง 600 บาทต่อวัน
-เงินคืนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ของราคาตั๋ว แต่สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อผู้โดยสาร (เฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวที่กำหนด)
ทั้งนี้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 จะเปิดจองโรงแรมที่พักวันสุดท้ายในวันที่ 24 พ.ค.2565 และสิ้นสุดระยะเวลาเดินทางเช็คเอาท์วันสุดท้ายของโครงการในวันที่ 31 พ.ค.2565
โดยหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาเดินทางของโครงการ ททท.จะต้องเคลียร์เรื่องงบประมาณต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือนหรือวันที่ 31 ก.ค.2565