“สนธิรัตน์” ห่วงราคาปาล์มลดลง ชี้เปลี่ยน บี 10 เป็น บี 7 ทำลายวงจร
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นห่วงสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ชี้เป็นผลจากนโยบายของกระทรวงพลังงานเปลี่ยนจากบี 10 เป็น บี 7 ระบุราคาน้ำมันสูงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการบริหารแต่ไม่ผลักภาระให้ประชาชน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวในการประชุมพรรคและแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขตเลือกตั้งที่ 2 คนแรกของภาคใต้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์นี้ว่า นโยบายปาล์มน้ำมันที่ทำไว้ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานว่า
“ถือว่าโชคดีที่ได้ทำนโยบายปาล์มน้ำมัน โดยการนำมาผลิตน้ำมัน บี 10 สามารถดันราคาปาล์มน้ำมันจากราคา 3 บาทต่อกิโลกรัมจนปรับขึ้นมาทะลุ 12 บาทต่อกิโลกรัมเมื่อเร็วๆนี้”
เนื่องจากการนำปาล์มน้ำมันมาผลิตเป็น บี 10 ตัวเดียวจะสามารถ ดึงผลผลิตปาล์มน้ำมันจำนวนมหาศาลมาผลิตเป็นน้ำมัน แต่สถานการณ์ตอนนี้น่าเป็นห่วง
หลังจากที่สัปดาห์ที่ผ่านมามีการปรับลดการผลิตน้ำมันจากบี 10 เหลือบี 7 ทั้งๆที่ผมเคยประกาศว่า น้ำมัน บี 10 คือมาตรฐาน เพราะเกษตรกรชาวสวนปาล์มถ้าไม่มีการประกาศผลิตน้ำมัน บี 10 ราคาจะตกแน่นอน
“ตอนนี้เมื่อ บี 10 หายไปราคาปาล์มน้ำมันก็เริ่มตกแล้วครับ เราจะประกันรายได้ช่วยได้กี่บาท และจะประกันได้เท่าไหร่ เพราะเวลาทำนโยบายน้ำมันบี 10 มันต้องดูว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันมันมีเท่าไหร่”
และถ้าผลผลิตปาล์มน้ำมันมันไปได้แค่เอาไปใช้เป็นพลังงาน แต่มันเกินกว่าที่เขาต้องการ พ่อค้าก็กดราคา เคยตกต่ำเหลือ 2 บาทหรือ 1 บาทกว่าต่อกิโลกรัมก็เคยมี
“แล้วจะไปกันยังไงกันต่อ มันก็จะอยู่กันอย่างนี้ แต่ถ้าเราทำให้ความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันเกินระบบหรือทำให้เกิดความสมดุลกับผลผลิต แต่นั้นราคาก็ปรับขึ้นๆ และขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ แต่วันนี้นโยบายเปลี่ยน”
จึงอยากจะบอกว่าอย่าไปตกใจกับราคาน้ำมัน เพราะราคาน้ำมันที่สูงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการบริหาร อย่าผลักภาระให้พี่น้องประชาชน อย่าไปทำลายวงจรที่มันดีอยู่แล้ว แต่ต้องควบคุม