สกพอ. ถกผู้แทนทูตฮังการี-รัสเซีย ชักจูงลงทุนอุตฯ เป้าหมายในอีอีซี
สกพอ. เร่งแผนการลงทุนระยะ 2 (ปี 2565 – 2569) เดินหน้าสานความร่วมมือนานาชาติ ถกผู้แทนทูตฮังการี และรัสเซีย จูงใจผู้ประกอบการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ อีอีซี ล่าสุดเชิญประธานาธิบดีรัสเซีย เยี่ยมชมโครงการ EECi ในโอกาสประชุมเอเปค ช่วงปลายปี 2565
นายเพ็ชร ชินบุตร รองเลขาธิการฯ สำนักงานคณะกรรมการเขตพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สกพอ.ได้มีการขับเคลื่อนแผนการลงทุนระยะ 2 (ระหว่างปี 2565 – 2569) ตั้งเป้าหมายให้เกิดการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท หรือปีละ 5 แสนล้านบาทต่อเนื่อง 5 ปี มุ่งเน้นดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ การแข่งขันของประเทศ
โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 สกพอ. ได้มีการผลักดันให้มีการเจรจาทางธุรกิจระหว่างนักลงทุนต่างประเทศทั้งจากภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และนักลงทุนไทย และเร่งนำเสนอแผนการลงทุน ให้คณะผู้แทนทางทูตประเทศกลุ่มเป้าหมายและประเทศที่มีความสนใจเข้ามาลงทุนในอีอีซี ได้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ และชักจูงให้เกิดการลงทุนร่วมกันต่อไป
ที่ผ่านมา สกพอ. ได้ให้การต้อนรับและหารือกับนายชานโดร์ ชีโปช เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย นำเสนอข้อมูลความก้าวหน้าในการพัฒนาโครงการอีอีซี โอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนและการอำนวยความสะดวกการลงทุนในพื้นที่ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
รวมทั้งได้หารือถึงแนวทางการชักจูงการลงทุนจากภาคธุรกิจของฮังการีมายังพื้นที่อีอีซี ซึ่งมีความสนใจในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย ได้แสดงความสนใจในการสร้างความร่วมมือกับ สกพอ. ในการชักจูงการลงทุนบริษัทเป้าหมายจากฮังการี และการจับคู่ทางธุรกิจกับภาคเอกชนไทย โดยทางสถานทูตฮังการีประจำประเทศไทยและ สกพอ.จะกำหนดสาขาความร่วมมือที่สนใจร่วมกันและชักจูงการลงทุนจากภาคเอกชนจากฮังการีต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้ให้การต้อนรับ นายสเตฟาน โกโลวิน รองหัวหน้าสำนักงาน สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยและคณะ และหารือประเด็นความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานและโอกาสการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. สุขภาพ 2. ดิจิทัล 3. การลดการปล่อยคาร์บอน และ 4. โลจิสติกส์
โดยผู้แทนฝ่ายรัสเซียได้แสดงความสนใจสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม ในสาขาดิจิทัล การแพทย์ พลังงานทดแทน การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และด้านการศึกษาและการฝึกอบรมบุคลากร
ทั้งนี้ สกพอ. ยังเสนอให้มีการเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi ในพื้นที่ อีอีซี ระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐรัสเซีย ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ช่วงปลายปี 2565 ด้วย