QH ผลประกอบการ 4Q64: ตํ่ากว่าที่เราคาดไว้ 10%
กำไรสุทธิของ QH ใน 4Q64 อยู่ที่ 494 ล้านบาท (-15% YoY, +88% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 10% เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือต่ำกว่าที่คาดไว้ 26% (ผลประกอบการของ LH Financial Group (LHFG.BK/LHFG TB) แย่กว่าที่คาดไว้)
อย่างไรก็ตาม กำไรที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง QoQ ใน 4Q64 มาจาก i) ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัย และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ii) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือเพิ่มขึ้น 14% QoQ จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ Home Product Center (HMPRO.BK/HMPROTB)*
ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยใน 4Q64 อยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท (-2% YoY, +54% QoQ) แบ่งเป็น i)โครงการแนวราบ 1.9 พันล้านบาท (-3% YoY, +44% QoQ) และ ii) โครงการคอนโดมิเนียม 239 ล้านบาท (+9% YoY, +232% QoQ) โดยยอดโอนโครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้น QoQ มาจากยอดขายโครงการที่สร้างเสร็จแล้วที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน ยอดโอนคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้นมาจากการโอนห้องสองยูนิตในโครงการ Q Sukhumvit (จากที่ไม่มีการโอนเลยใน 3Q64) ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 1.6ppts QoQ เป็น 30.7% เนื่องจาก product mix ดีขึ้น
กำไรอาจจะแผ่วลงใน 1Q65F
เราคาดว่ากำไรของ QH จะลดลงเล็กน้อย QoQ ใน 1Q65F เนื่องจากผลการดำเนินงานของ HMPRO จะแผ่วลงตามปัจจัยฤดูกาล และภาวะตลาดที่แย่ลงจากสถานการณ์ COVID-19 ใน 1Q65F อาจจะส่งผลกระทบกับยอดโอนโครงการในสต็อกของ QH
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/66F ลง 9%
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/66F ลง 9% เพื่อสะท้อนถึงสมมติฐานที่เป็นปัจจุบัน (Figure 6) ได้แก่ i) การปรับลดยอดโอนคอนโดมิเนียม และ ii) การปรับลดส่วนแบ่งกำไรจาก LHFG ซึ่งทำให้ต้องปรับลดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือลงจากเดิม
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ใหม่ที่ 2.60 บาท (ธุรกิจ conventional ที่ 0.60 บาท และ ธุรกิจการลงทุนที่ 2.00 บาท) ทั้งนี้ เราได้ปรับเพิ่ม P/E เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการเช่าเป็น 11.5x จากเดิม 10.6x (Figure 7) นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผล 0.07 บาท/หุ้นสำหรับงวด 2H64 (กำหนดขึ้น XD วันที่ 28 เมษายน) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 3%
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง