กฟผ. ตั้งเป้าครึ่งปี 65 เปิดบริการสถานีชาร์จอีวี “ปั๊มพีที” รวม 57 สถานี
กฟผ. กระตุ้นเศรษฐกิจ “เที่ยวเมืองไทย ไปได้ไกลขึ้น” เอาใจผู้ใช้ EV เปิดสถานีชาร์จ EleX by EGAT เพิ่มครอบคลุมทั่วประเทศ ระบุปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 40 สถานี ตั้งเป้าภายในครึ่งปี 2565 เปิดให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 17 สถานี รวม 57 สถานี
นายวฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการ Project Management Office การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้เปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT แห่งใหม่ล่าสุดเพิ่มขึ้นอีก 12 สถานีกระจายทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย ทั้งหมดเป็นสถานีชาร์จในสถานีบริการน้ำมัน PT และติดตั้งเครื่องชาร์จแบบ Dynamic Load ที่มีกำลังไฟสูงสุดถึง 125 kW สามารถชาร์จไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการเดินทางให้กับผู้ใช้ EV ตามเส้นทาง
ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 4 สถานี ที่ จ.ลำปาง 2 แห่ง, จ.เชียงใหม่ 1 แห่ง และ จ.เชียงราย 1 แห่ง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3 สถานี ที่ จ.อุดรธานี, อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์, ภาคกลาง จำนวน 1 สถานี ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา, ภาคตะวันออก จำนวน 1 สถานี ที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี, ภาคตะวันตก จำนวน 2 สถานี ที่ จ.ตาก และ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้ จำนวน 1 สถานี ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ปัจจุบันสถานีชาร์จ EleX by EGAT เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 40 สถานี เพิ่มความมั่นใจในการเดินทางด้วย EV ทั่วประเทศ ล่าสุดผู้ใช้ EV สามารถเดินทางไกลได้ถึง จ.เชียงราย พื้นที่สูงสุดของประเทศไทย ซึ่งมีสถานีชาร์จของ กฟผ. เปิดให้บริการในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
นายวฤต กล่าวว่า กฟผ. มุ่งเน้นตอบโจทย์การให้บริการกับ 3 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มเดินทางข้ามจังหวัด ภายในครึ่งปี 2565 นี้ กฟผ. จะเปิดให้บริการสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นอีก 17 สถานี ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่บริเวณทางหลวง (Highway) กับสถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ EV สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ออกไปได้ 700 กิโลเมตรในทุกทิศทาง และ กฟผ. ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2565 จะติดตั้ง Super Fast Charger ให้ผู้ใช้ EV เดินทางไปได้ทุกจังหวัดในประเทศไทย รวมถึงจะพัฒนา Green Charging Station ต้นแบบ
2.กลุ่มลูกค้าในเมือง เน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองที่ใช้ EV โดยจะขยายสถานีไปยังห้างสรรพสินค้า Community Mall สนามกอล์ฟ เป็นต้น และ 3.กลุ่มผู้ประกอบการที่สนใจทำธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าขยายเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลายมากขึ้น โดยเปิดรับผู้ประกอบการทั้งธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ หรือ ธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องการเพิ่มจุดชาร์จ EV ให้กับลูกค้า โดยเจ้าของสถานีสามารถใช้บริการระบบ “BackEN” หรือระบบบริหารจัดการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Network Operator Platform) ที่ กฟผ. พัฒนาขึ้น
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของสถานีชาร์จ อีกทั้งยังเชื่อมโยงการใช้งานไปที่แอปพลิเคชัน EleXA ของ กฟผ. ทำให้ลูกค้าผู้ใช้ EV สามารถมองเห็นสถานีชาร์จได้มากขึ้นและช่วยเพิ่มยอดผู้เข้าใช้บริการที่สถานีมากขึ้นด้วย ระบบดังกล่าวมีอัตราค่าบริการแพลตฟอร์มเริ่มต้นเพียง 699 บาทต่อเดือนต่อเครื่องเท่านั้น
นอกจากนี้ กฟผ. ยังมีบริการติดตั้ง Wallbox Charger สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่มีหัวชาร์จติดตั้ง เป็นทางเลือกเพิ่มเติมอีกด้วย