ตลท. ปี64 กำไรสุทธิ 1.5 พันล้าน เหตุ วอลุ่มเทรดเพิ่มขึ้น -กำไรเงินลงทุน

ตลท. ปี64 กำไรสุทธิ 1.5 พันล้าน  เหตุ วอลุ่มเทรดเพิ่มขึ้น -กำไรเงินลงทุน

ตลท.ปี 64 มีกำไรสุทธิ 1,597 ล้านบาท  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งผลการดำเนินงานปี  2564 ว่า  กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ มีรายได้รวมจํานวน 8,284 ล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งผลการดำเนินงานปี  2564 ว่า  กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ มีรายได้รวมจํานวน 8,284 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 1,187 ล้านบาท หรือ  31% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,347 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของ รายได้จากการดําเนินงานซึ่งเป็นยอดสุทธิจากการให้ส่วนลดและลดราคาสําหรับค่าธรรมเนียมประเภทต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 แก่ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders)

โดยปัจจัยสําคัญจากปริมาณการซื้อขาย(วอลุ่ม)เฉลี่ยต่อวันของตราสารทุนเพิ่มขึ้น และรายได้จากเงินลงทุน 369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 733 ล้านบาท หรือ 201%  ซึ่งเน้นการลงทุนในตราสารทุนไทยและกลุ่มตราสารหนี้ จากปี 2563 มีความผันผวนของตลาดทุนและตลาดการเงินโลก จากผลกระทบของสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ทําให้เกิดขาดทุนสุทธิ 364 ล้านบาท จากเงินลงทุน 

สําหรับค่าใช้จ่ายจากการดําเนินงานรวมจํานวน 5,036 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากค่าธรรมเนียมเงินอุดหนุนแก่สํานักงานก.ล.ต. ตามปริมาณการซื้ออขายตราสารทุนที่เพิ่มขึ้น  ค่าใช้จ่ายงานบริการนายทะเบียนเพิ่มขึ้นตามปริมาณงานบริการ Corporate Actions และค่าใช้จ่ายการกุศลและกิจกรรมเพื่อสังคมเพิ่มขึ้นจากการบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 จากผลดังกล่าว

 ทําให้กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ มีรายได้รวมสูงกว่าค่าใช้จ่ายก่อนเงินนําส่งแก่กองทุน CMDF และภาษีจํานวน 3,294 ล้านบาท   โดยปี 2564  ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีค่าใช้จ่ายเงินนําส่งรายปีแก่กองทุน CMDF จํานวน 583 ล้านบาท ซึ่งคํานวณในอัตราร้อยละ 90 ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ภาษีและเงินสํารอง โดยใช้งบการเงินรวมประจําปี 2564 ของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ จากผลทั้งหมดดังกล่าว กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ 1,597 ล้านบาท 


 โดยตลาดหลักทรัพย์มีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสด เงินฝากธนาคารสําหรับผลประโยชน์ทางการเงินรอจ่ายคืน และสินทรัพย์ ทางการเงิน รวมจํานวน 20,966 ล้านบาท คิดเป็น 37%ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้นจํานวน 3,642 ล้านบาท หรือ  21%  จากปี 2563 อยู่ที่ 17,324 ล้านบาท  ซึ่งกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ มีนโยบายการลงทุนในประเภทการลงทุนที หลากหลาย ได้แก่

เงินฝากธนาคาร ตราสารหนี้ (อาทิ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน) กองทุนรวม และตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมียอดเงินสดและสินทรัพย์ทางการเงินรวมเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการดําเนินงานประจําปี ในขณะที่สินทรัพย์ทางการเงินในแต่ละประเภทมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับแนวโน้มสภาวะการลงทุนและความผันผวนของตลาดโดยรวม 

 สำหรับณ สิ้นปี 2564  กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเงินกองทุนรวมจํานวน 29,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จํานวน 1,662 ล้านบาท (ร้อยละ 6) เมื่อเทียบกับยอดคงเหลือ ณ 31 ม.ค. 2563 โดยกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิสําหรับปี 2564 จํานวน 1,597 ล้านบาท และผลกําไรจากการปรับประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยเพิ่มขึ้นจํานวน 65 ล้านบาท