เกษตรวางรุกแผนโลจิสติกส์ เป้าต้นทุนลด มูลค่าเพิ่ม 3 % ต่อปี
เกษตรฯ เคาะแผนปฏิบัติการโลจิสติกส์ภาคเกษตร 5 ปี เป้าลดต้นทุนขนส่ง – มูลค่าเพิ่ม 3% ต่อปี ดันไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์เกษตรของภูมิภาคอาเซียน
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบโลจิสติกส์การเกษตร ที่มี นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตร (พ.ศ. 2566 - 2570)
เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาระบบโลจิสติกส์สาขาเกษตรเชื่อมโยงกับแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย (พ.ศ. 2566 - 2570) ที่ดำเนินการโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)
สำหรับสาระสำคัญของแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตร มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์ภาคการเกษตร ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์เกษตรของภูมิภาคอาเซียน”
มีตัวชี้วัด ได้แก่ ต้นทุนโลจิสติกส์สินค้าเกษตรที่สำคัญต่อยอดขายลดลงไม่น้อยกว่า 3% ต่อปี มูลค่าการดำเนินธุรกิจ รวบรวมของสหกรณ์การเกษตรเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3% ต่อปี การอำนวยความสะดวก และให้บริการด้านโลจิสติกส์เกษตรเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด 100%
ทั้งนี้ กำหนดประเด็นการพัฒนา 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการในการบริหารจัดการโลจิสติกส์เกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์เกษตร และการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการขับเคลื่อนโลจิสติกส์ภาคการเกษตร
นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการ กล่าวว่า สาระสำคัญที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันผลักดันภายใต้ประเด็นการพัฒนาต่างๆ ประกอบด้วย การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการในการบริหารจัดการโลจิสติกส์เกษตร โดยเน้นการยกระดับสถาบันเกษตรกรที่มีความเข้มแข็งให้เป็นผู้ประกอบการโลจิสติกส์เกษตร
สนับสนุนองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโลจิสติกส์เกษตร สร้างและพัฒนาเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรต้นแบบ ตลอดจนพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ให้มีองค์ความรู้ด้านการพัฒนาระบบ โลจิสติกส์ภาคการเกษตร
ขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์เกษตรโดยการยกระดับศูนย์รวบรวม และกระจายสินค้าเกษตรของสถาบันเกษตรกร สร้างเครือข่าย สถาบันเกษตรกรให้เป็นฐานการรวบรวมกระจาย และเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าเกษตรที่สำคัญในภูมิภาค พัฒนาตลาดกลาง และเชื่อมโยง ตลาดระดับต่างๆ บูรณาการ และผลักดันการใช้กลไกภาครัฐ รวมถึงเจรจาและปรับปรุง กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์สินค้าเกษตร
และการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการขับเคลื่อนโลจิสติกส์ภาคการเกษตร จะจัดทำระบบฐานข้อมูลที่ครอบคลุมทุกมิติ สอดรับกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ของประเทศ พัฒนาระบบการให้บริการผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมมาใช้อำนวยความสะดวก ตลอดจนส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์เกษตร
หลังจากนี้ สศก. จะเตรียมเสนอความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตร พร้อมทั้ง สาระสำคัญของแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตร (พ.ศ. 2566 - 2570) ต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในเดือนมี.ค. 2565 หลังจากนั้น จะจัดทำแผนปฏิบัติการฯ ฉบับสมบูรณ์ พร้อมเผยแพร่และสร้างการรับรู้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์