SCB เริ่มต้นการแปลง SCB เป็น SCBX (9 มี.ค. 65)
SCB ได้เริ่มขั้นตอนการแลกหุ้น SCB เพื่อเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (holding company) ที่ใช้ชื่อว่า SCBx แล้ว โดยกำหนดช่วงแปลงหุ้นที่อัตราส่วน 1:1 ระหว่างวันที 2 มีนาคม 2565 ถึง 18 เมษายน 2565
ซึ่งในช่วงของกระบวนการแปลงภาพนี้ ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิ์แปลงหุ้น SCB เป็นหุ้น SCBx ได้ ทั้งนี้ การที่ดีลนี้จะเดินหน้าต่อไป ต้องมีการแปลงหุ้นไม่น้อยกว่า 90% ของหุ้นทั้งหมดของ SCB ซึ่งเมื่อมีการแปลงหุ้น
เรียบร้อยแล้ว SCBx จะเข้ามาจดทะเบียนใน SET แทน SCB ซึ่งจะถูกถอนหุ้นออกจาก SET ในวันเดียวกัน
CardX จะถูกแยกออกมาเป็นบริษัทใหม่โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการในกลางปี 2565
ภายใต้การเปลี่ยนผ่านจาก SCB เป็น SCBx ธนาคาร (SCB) จะมีหลายธุรกรรมที่มีการทำควบคู่กันไป 1.) การปรับโครงสร้างการธุรกิจที่ และแยกบางหน่วยธุรกิจของธนาคารออกมาตั้งเป็นบริษัทลูกใหม่ ทั้งนี้ ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยจะถูกตั้งเป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ CardX โดยจะมีขนาดสินทรัพย์ 1.10 แสนล้านบาท 2.) SCB จ่ายจะเงินปันผลให้กับ SCBx 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะถูกนำไปใช้จ่ายเงินปันผล 8.9 พันล้านบาท (2.63 บาท/หุ้น), ใช้ซื้อ CardX (ยังไม่ได้กำหนดราคาขั้นสุดท้าย), ใช้ซื้อบริษัทลูกอื่น ๆ ออกมาจากธนาคารรวม 1.95 หมื่นล้านบาท (figure 2), และที่เหลือจะใช้สำหรับการลงทุนใหม่ ๆ (รวมการซื้อ BitKub ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท)
อาจจะจ่ายเงินปันผลหลังแลกหุ้น
หลังจากที่แลกหุ้นเสร็จแล้ว ธนาคารเผยว่าอาจจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติม ทั้งนี้ เนื่องจาก ธปท. กำหนดให้ธนาคารจ่ายเงินปันผลได้ไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิรายปี เราจึงคาดว่าปันผลส่วนเพิ่มนี้อาจจะไม่น่าจะมีนัยสำคัญ เพราะ SCB ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2564 ไปแล้วที่ 4.06 บาท/หุ้น (1.60 บาท/หุ้น สำหรับงวด 1H64 และ 2.63 บาท/หุ้น สำหรับงวด 2H64) คิดเป็นอัตราเงินปันผลจ่าย (dividend payout ratio) 40% ซึ่งหากใช้สมมติฐานว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลเต็มที่ 50% หมายความว่าเงินปันผลส่วนเพิ่มมาจะไม่เกิน 1.20 บาท/หุ้น
แนะนำซื้อโดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565F ที่ 163 บาท (P/BV ที่ 1.2x)
หลังจากที่ธุรกรรมการแลกหุ้นเสร็จเรียบร้อยในปลายเดือนเมษายน 2565 แล้ว คาดว่าจะสามารถนำบริษัทใหม่ที่มีสถานะเป็น holding company เข้าจดทะเบียนในตลาดได้ในเดือนพฤษภาคม 2565 และจากนั้นจะเริ่มเปิดดำเนินการ CardX และ AutoX ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ที่แยกออกมาเพื่อสร้างการเติบโตจากธุรกิจใหม่ เรามองว่าหลังจากนั้นภูมิทัศน์ทางการแข่งขันของธุรกิจธนาคาร และ non-bank จะเข้มข้นมากขึ้น ทั้งนี้ หลังจากที่ราคาหุ้นร่วงลงมาแรง เราคิดว่า profile การเติบโตของกำไร SCB ยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565F ที่ 163 บาท (P/BV ที่ 1.2x)
Risks
ไม่สามารถเพิ่มรายได้อย่างที่คาดไว้, NPLs เพิ่มขึ้น, สำรองเพิ่มขึ้น, มีการแลกหุ้น SCBx ไม่ถึง 90%