วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (10 มี.ค. 65)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (10 มี.ค. 65)

ราคาน้ำมันดิบร่วง หลังยูเออีเผยสนับสนุนสมาชิกโอเปคให้ปรับเพิ่มกำลังการผลิต

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลดลงสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ ช่วงแรกของการระบาดของโควิด-19 หลังยูซูฟ อัล โอไตบา เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) แถลงถึงความต้องการที่จะสนับสนุนสมาชิกโอเปคให้พิจารณาปรับเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้น เพื่อบรรเทาปัญหาอุปทานน้ำมันขาดแคลนจากที่นานาประเทศประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย อย่างไรก็ตาม หลังตลาดปิดยูเออีเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ปัจจุบันยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม

- สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ประกาศความพร้อมที่จะสามารถระบายน้ำมันออกมาได้อีก หลังก่อนหน้านี้มีมติตกลงที่จะปล่อยน้ำมันดิบสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) ออกสู่ตลาด ปริมาณ 60 ล้านบาร์เรล อีกทั้ง นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกเร่งเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อสกัดราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 มี.ค. 2565 ปรับตัวลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 411.6 ล้านบาร์เรล จากเดิมที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับลดลงเพียง 0.6 ล้านบาร์เรล 
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ในภูมิภาคที่ปรับสูงขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในออสเตรเลีย ไทย และอินโดนีเซีย ขณะที่มาเลเซียกักตุนสต็อกน้ำมันเบนซินอย่างต่อเนื่อง ก่อนเข้าสู่ช่วงถือศีลอดในเดือน เม.ย.


ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่ Fujairah ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีปริมาณลดลงร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2560
 

 

 

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (10 มี.ค. 65)