BJCHI งานทะลัก รับราคา ”น้ำมัน-แร่” พุ่ง ดันรายได้ปีนี้โต
"บีเจซีเอชไอ” เผย “น้ำมัน-แร่-พลังงานสะอาด"ราคาพุ่ง” ดัน 20 บริษัทเอกชนชั้นนำระดับโลก ทุ่มงบขยายกำลังผลิตเพิ่ม 22% จากปีก่อน หรือราว 7 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นโอกาสทอง รับงานมากขึ้น ในปีนี้-ปีหน้า
นายวิทยา เชียงอุทัย ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ และวางแผนกลยุทธ์ บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) BJCHI เปิดเผยว่า จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ปรับตัวสูงขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน , แร่ , พลังงานสะอาด ทำให้บริษัทน้ำมันและกลุ่มบริษัทเหมืองแร่ มีการปรับเพิ่มงบลงทุนมากขึ้นหากเทียบจากปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้มี 20 บริษัทชั้นนำของโลกในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เพิ่มงบลงทุนในปีนี้ประมาณ 22% หรือราว 70,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าลงทุนที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 และจากเทรนด์ของอุตสาหกรรมก็ไปทางพลังงานสะอาดอีกด้วย ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็มีการเพิ่มงบลงทุนเช่นกัน ทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้ว สอดรับกับกระแสลดโลกร้อน
ดังนั้นถือว่าเป็นโอกาสที่บริษัทจะสามารถรับงานได้มากขึ้น ทั้งมูลค่าโครงการเพิ่ม และ ปริมาณงานที่ออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทคาดว่าจะเข้าไปรับงานกลุ่มอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงานสะอาดได้มากขึ้น
นายวิทยา กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้จำนวน 3,800 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนงานโครงการปิโตรเคมี 78% งานโครงการออยล์ แอนด์แก๊ส 21% และโครงการโรงไฟฟ้า 1% โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวน 2,500 ล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้ต่อเนื่องอีก 3 ปีข้างหน้า
สำหรับในปีนี้มีโครงการที่อยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่จำนวน 6โครงการ ประกอบด้วย งานโครงการพลังงานสะอาดในต่างประเทศ มูลค่า 44 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าและลูกค้ากำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ คาดรับรู้ผลประมูลไตรมาส 2ปี2565 , งานโครงการพลังงานไฮโดรเจน มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ คาดรู้ผลประมูลไตรมาส 2ปี2565 , งานโครงการก่อสร้างพลังงานก๊าซ มูลค่า 6 ล้านดอลลาร์ คาดรู้ผลไตรมาส 2ปี 2565
ส่วนงานโครงการอินฟราสตรัคเจอร์ ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทมีความถนัดคาดว่างานดังกล่าวบริษัทมีโอกาสสูงที่จะได้งานดังกล่าว คาดว่าจะรู้ผลไตรมาส 3ปี2565 , งานโครงการออยล์ & แก๊ส คาดว่าจะทราบผลไตรมาส 4ปี 2565 และงานโครงการเดิมที่ลงทุนต่อเนื่องเฟส 5 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการคุยกับลูกค้า ซึ่งเฟส 1-4 บริษัทเป็นผู้ดำเนินการให้ คาดว่าจะรู้ผลปลายไตรมาส 2 หรือ ต้นไตรมาส 3ปี 2565
“จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี ประเด็นดังกล่าวสร้างโอกาสในการรับงานเพิ่มมากขึ้นในปีนี้และปีหน้า”