2 ค่ายรถ"เกรทวอลล์ และ เอ็มจี" นำค่ายรถหั่นราคาอีวี

2 ค่ายรถ"เกรทวอลล์ และ เอ็มจี" นำค่ายรถหั่นราคาอีวี

2 ค่ายรถใหญ่​ "เกรท​ วอลล์ และ เอ็มจี" นำหั่นราคาอีวี​ ลงนามสรรพสามิตร่วมมาตรการส่งเสริมการใช้รถอีวีภาครัฐจันทร์นี้​

รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า​ วันจันทร์ที่​ 21​ มี.ค.นี้ อธิบดีกรมสรรพสามิต​ นายลวรณ​ แสงสนิท​ และผู้แทนบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด จะร่วมลงนามข้อตกลงระหว่างกรมสรรพสามิตกับผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถยนต์ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี)

 

นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เผยว่า ขณะนี้​ กรมฯ ได้วางแนวทางกำกับดูแลมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินส่วนลดจากมาตรการภาษีและเงินอุดหนุนของรัฐบาล จะตกถึงมือผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยกำหนดให้ค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการ จะต้องดำเนินการตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ให้แจ้งโครงสร้างราคา ต้นทุนการนำเข้า ค่าบริหารจัดการ และส่วนลดที่จะมอบให้กับลูกค้า มาให้กรมฯพิจารณาอนุมัติก่อน เพื่อให้ลูกค้าได้รับส่วนลดจากเงินอุดหนุน และมาตรการภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ค่ายรถยนต์ ห้ามไมเนอร์ เชนจ์ หรือมีการปรับโฉม เช่น เปลี่ยนอุปกรณ์ ฟังก์ชั่นการใช้ทำงานเพียงเล็กน้อยเพื่อขึ้นราคาเป็นเวลา 2 ปี รวมถึงห้ามนำเงินอุดหนุนที่ได้รับจากรัฐบาล ไปใช้ในส่วนลดกำไรมาตรฐานกับลูกค้า เพราะปกติตัวแทนจำหน่าย ดีลเลอร์ กับค่ายรถยนต์ จะมีส่วนของแถมส่วนลดให้ลูกค้า เช่น แถมไฟตัดหมอก ล้อแม็ก หรือให้ส่วนลดตัวเงินอยู่แล้ว แต่ส่วนเงินอุดหนุนที่รัฐบาลให้นี้จะเป็นส่วนลดเพิ่มเติม ไม่รวมกับโปรโมชั่น หรือส่วนลดที่ดีลเลอร์แต่อย่างใด 

“เรื่องนี้กรมฯ ตั้งใจดูแลอย่างรอบคอบ เพื่อการันตีว่าเงินของรัฐที่จ่ายอุดหนุน รวมถึงการลดภาษีจะไม่รั่วไหล และไปถึงมือผู้บริโภคอย่างครบถ้วน เพราะเงื่อนไขการให้เงินอุดหนุนมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้ารอบนี้ จะไม่เหมือนกับโครงการรถคันแรก ซึ่งในสมัยนั้น รถคันแรกจะเป็นการคืนเงินภาษีเท่ากับที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ให้แก่ประชาชนที่ซื้อและครอบครองรถยนต์ไปแล้ว 1 ปี  โดยผู้ซื้อต้องมาติดต่อกับหน่วยงานรัฐเพื่อรับเงินภาษีคืนเอง แต่ในส่วนมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าครั้งนี้ ภาครัฐจะให้เงินอุดหนุนโดยตรงกับดีลเลอร์ เพื่อให้ผู้ขายไปลดราคาให้กับลูกค้าต่ออีกทอด ไม่เป็นภาระแก่ผู้ซื้อในการต้องมาขอรับเงินอุดหนุนภายหลัง ซึ่งสะดวกกับคนซื้อมากกว่า”

สำหรับส่วนลดราคารถยนต์ไฟฟ้า ที่ได้จากการเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนอีวี จะได้รับสูงสุดถึง 3 ต่อ ต่อแรกเป็นการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้าจาก 8% ลดเหลือ 2%  ต่อที่สองได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลตามขนาดแบตเตอรี่ รถยนต์ 70,000-150,000 บาทต่อคัน  รถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน และต่อสุดท้ายได้รับการลดอากรขาเข้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งคัน หากมีราคาไม่เกินคันละ 2 ล้านบาท ได้ลดอากรขาเข้าสูงสุด 40%  ส่วนรถยนต์ที่มีราคาแนะนำ 2-7 ล้านบาท จะได้รับส่วนลดสูงสุด 20% เท่ากับว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาขาย คันหนึ่งจะลดลงไม่ต่ำกว่าหลักแสนบาท