เฟรเซอร์สฯทุ่ม5หมื่นล้านขยายคลังสินค้ารับทุนย้ายฐานผลิต-นิวอีโคโนมี
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล ชี้โลจิสติกส์ ออโตเมชั่น อิเล็กทรอนิกส์ บูม กางแผน 5 ปี ทุ่ม 5 หมื่นล้าน ลงทุนขยายพื้นที่คลังสินค้าแตะ 4 ล้านตร.ม. รับอานิสงส์สงครามรัสเซีย-ยูเครน นักลงทุนย้ายฐานผลิตมาไทย
นายโสภณ ราชรักษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ FPIT กล่าวว่า จากปัจจัยที่มีผลกระทบกับอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ที่เกี่ยวกับโรงงานและคลังสินค้า ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ปัญหาความขัดแย้งระหว่างภูมิภาค หรือประเทศมหาอำนาจจากสงครามการค้า สู่สงคราม รัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งเทคโนโลยีดิสรัปชัน กลับกลายเป็นปัจจัยบวกทำให้ อสังหาฯ เพื่ออุตสาหกรรมเติบโตซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจโลจิสติกส์ ออโตเมชั่น อิเล็กทรอนิกส์ โตตามดีมานด์ของลูกค้า
“เทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้เกิด นิวอีโคโนมี จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้อีคอมเมิร์ซเติบโต 20-30% ส่งผลต่อสมาร์ท อินดัสเทรียล เติบโตตามไปด้วยเกิดแลนด์สเคปใหม่ทั้งฝั่งดีมานด์และซัพพลาย”
ทั้งนี้ บริษัทวางแผน 5 ปีข้างหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตในทุกมิติ รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการสานต่อกลยุทธ์ “น่านน้ำสีม่วง” ด้วยการเป็น “ตัวกลาง” ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ออนไลน์ ดิลิเวอรี่ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ โดยใช้งบการลงทุนปีรวม 50,000 ล้านบาท เฉลี่ยลงทุนปีละ 10,000 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่รองรับความต้องการเพิ่มขึ้น
ในปี 2565 บริษัทมีแผนขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการรวม 150,000 ตารางเมตร ภายใน 4 โครงการ 4 ทำเล ประกอบด้วย พระปะแดง บางพลี บางปะกง และ บางนา กม.32 โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนขยายพื้นที่รวม 800 ไร่ ซึ่งจะพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และโลจิสติกส์-บิสสิเนสปาร์คขนาดเล็กใกล้เมือง
ด้านการขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการในต่างประเทศ ในปี 2565 จึงเตรียมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ เพื่ออุตสาหกรรม ที่เมืองบินห์เยือง ประเทศเวียดนาม เฟส 2 เพิ่มอีก 70,000 ตร.ม. หลังได้รับการตอบรับที่ดีในเฟสแรก ซึ่งจะส่งผลห้บริษัทมีพื้นที่เช่าให้บริการในประเทศเวียดนามรวมทั้งสิ้นกว่า 100,000 ตร.ม.
โดยปีนี้บริษัทมีแผนจะลงนามสัญญาพัฒนาอาคารอุตสาหกรรมใหม่ พื้นที่รวมกว่า 200,000 ตร.ม. และยังมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างเจรจาอีกจำนวนมาก เนื่องจากความต้องการใช้พื้นที่อาคารโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ มูลค่ารวม2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นพื้นที่เช่าในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่บริษัทพัฒนา
นายโสภณ กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเป้าหมายในการขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการรวมสู่ 4 ล้านตร.ม. ภายในปี 2568 โดยตั้งเป้าขยายพื้นที่ 150,000-200,000 ตร.ม.ต่อปี ซึ่งจากการมีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้รายได้จากค่าเช่าในอีก 5 ปีข้างหน้าคิดเป็นมูลค่า 7,000 ล้านบาท
“คาดว่าหลังสงครามรัสเซีย ยูเครน จะนักลงทุนย้ายฐานผลิตมาไทย โดยเฉพาะนักลงทุนจีนสัดส่วนเพิ่มขึ้น10% จากปัจจุบันมีอยู่ 5% เพื่อเป็นฐานการผลิดส่งออกไปสหรัฐ ยุโรป ทั้งนี้เพราะศักยภาพประเทศไทยศูนย์กลางแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อว่าดึงดูดนักลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจออโตโมทีฟ และอิเล็กทรอนิกส์”
แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทวางเป้าหมายรายได้จากค่าเช่าที่ระดับ 5,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน จากการบริหารจัดการรวมทั้งสิ้น 3.1 ล้านตร.ม. ภายใต้อัตราการเช่าพื้นที่ (OCC) ที่ระดับ 85% ซึ่งรายได้ของบริษัทคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวมในพอร์ตเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้