วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (31 มี.ค. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 มี.ค. 65 ลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 61 โดยปรับตัวลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 410 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงราว 1.0 ล้านบาร์เรล สะท้อนสภาวะตลาดตึงตัวต่อเนื่อง
+ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนต่อการออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย หลังกองกำลังรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีบริเวณชานกรุงเคียฟ ซึ่งก่อนหน้านี้รัสเซียรับปากว่าจะลดระดับปฏิบัติการต่างๆ ขณะที่สหรัฐฯ เตือนว่ารัสเซียอาจส่งเสบียงและยุทโธปกรณ์ให้ทหารปักหลักทำสงครามต่อไป
+/- ตลาดจับตาการประชุมกลุ่มโอเปคพลัสที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ที่ทางกลุ่มมีแนวโน้มยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยปรับกำลังการผลิตน้ำมันในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 432,000 บาร์เรล/วัน จาก 400,000 บาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือนส.ค. 64 แม้ว่าหลายประเทศต่างกดดันให้ทางกลุ่มเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นอีกเพื่อชะลอความร้อนแรงของราคาน้ำมันดิบก็ตาม
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และการเตรียมเปิดประเทศของสิงคโปร์และมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม อินเดียประกาศส่งออกน้ำมันเบนซินในเดือน เม.ย.มากขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนยังคงกดดันความต้องการใช้น้ำมันดีเซลให้ปรับตัวลดลง