'อาคเนย์’ เตรียมปิดศูนย์ให้บริการ หลังคปภ.เพิกถอนใบอนุญาต
อาคเนย์ ปิดให้บริการถาวรแล้ว หลังคปภ.เพิกถอนใบอนุญาต พร้อมปิดศูนย์บริการลูกค้า โอนลูกค้าติดต่อสายด่วนผ่านคปภ. ปลื้มส่งมอบลูกค้ากรมธรรม์ 8ล้านบัญชีเรียบร้อย เหลือลูกค้าประกันโควิดเพียง 1ล้านบัญชี ชี้อาคเนย์ดูแลพนักงานเต็มที่ 1300 คน มีงานรองรับแล้ว90%
แหล่งข่าวจาก บริษัทอาคเนย์ประกันภัย(จำกัด)มหาชน กล่วาว่า ภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีผลตั้งแต่ 1 เม.ย. 2565 ด้านอาคเนย์ เตรียมปิดกิจการทันทีนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมปิดศูนย์ให้บริการ ในการรับแจ้งเครมประกันและการติดต่อลูกค้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแจ้งข้อมูลให้ลูกค้ารับทราบเกี่ยวกับเบอร์ติดต่อ สายด่วน ช่องทางเว็ปไซด์ต่างๆหากมีการติดต่อขอเครมประกันต่างๆ โดยลูกค้าสามารถติดต่อไปยัง คปภ.และกองทุนประกันวินาศภัย ที่จะเข้ามาเป็นผู้ชำระบัญชีและดำเนินการจ่ายเคลมสินไหมให้กับผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเพิกถอนใบอนุญาตทั้งสองบริษัท
โดยที่ผ่านมาอาคเนย์ และไทยประกันฯ ได้ยื่นขอคืนใบอนุญาต แค่คปภ.และโดยบอรด์คปภ.รับเรื่องเมื่อ 28 ม.ค. โดยนับตั้งแต่ 1ก.พ. อาคเนย์ และไทยประกัน เริ่มคืนเบี้ย จ่ายชดเชยให้ผู้เอาประกันโควิด
ทั้งนี้หากดูกระบวนการโอนลูกค้าให้ไปบริษัทประกันใหม่ ทั้ง 31 บริษัท เพื่อรับประกันต่อ โดยเป็นประกันภัย จำนวน 15 บริษัท เป็นบริษัทประกันวินาศภัย 10 บริษัท และประกันชีวิต 5 บริษัท และเจรจาอู่ซ่อมรถกว่า 200-300 บริษัท เพื่อรับดูแลลูกค้าต่อไปหลังจากปิดกิจการ
เหล่านี้ใช้เวลาในการดำเนินการตั้งแต่ 28 ม.ค.ถึง 23ก.พ.ซึ่งถือเป็นการบริหารจัดการที่เป็นระบบ และอยู่ในแผน ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลลูกค้า ทำให้สามารถโอนลูกค้า 8 ล้านกรมธรรม์ ที่ลูกค้าประกันอื่นๆไม่รวมลูกค้าประกันโควิด ไปยังบริษัทใหม่อย่างสมบูรณ์ โดยลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนบริษัทแต่อย่างไร
“กระบวนการที่เราทำ เราใช้เวลาสั้นมาก จนเสร็จเมื่อ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อหาบริษัทรับประกันภัยต่อให้ลูกค้าได้ทั้งหมด ทั้ง 8 ล้านคน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ผลกระทบที่มีต่อลูกค้า มีผลกระทบน้อยที่สุด หากเทียบกับบริษัทอื่นๆ ซึ่งการคืนใบอนุญาต ก็มาจากยอดการเครมโควิด ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีการเพิ่มทุนไปล่าสุด 1หมื่นล้านบาท ก็ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่ตัดสินใจเพิ่มทุนต่อ จนมีการยื่นขอมติบอรด์คปภ.เมื่อ 16 มี.ค. ว่าให้คปภ.เข้ามาควบคุม เพราะดูแล้วคงไม่สามารถเพิ่มทุนแน่นอนจึงต้องเสนอให้คลังเพิกถอนใบอนุญาตเพราะสภพคล่องเราหาไม่ได้”
อย่างไรก็ตามหากดูลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์โควิด-19 ปัจจุบันยังไม่มีการเครม เหลืออีก 1 ล้านฉบับ ที่ยังไม่หมดอายุการคุ้มครอง ซึ่งคาดจะหมดใน 3เดือนข้างหน้า ซึ่งหากคิดเป็นยอดเงินการเครม คาดว่าอยู่ที่กว่า 1หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเงินกองทุนสำรองของทั้งสองบริษัท ที่เหลือที่คปภ.อีกกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งนับจากบริษัทปิดกิจการ คาดคปภ.น่าจะนำเงินดังกล่าวไปดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบต่อไป
สำหรับการปิดสองบริษัท ล่าสุดบริษัทได้มีการเลิกจ้างบางส่วน โดยรวมบริษัทมีพนักงานทั้งหมด 1300 คน โดยในส่วนนี้ราว 500-600 คนได้บริษัทใหม่เรียบร้อยแล้ว และบางส่วนมีการย้ายไปทำในบริษัทในเครือ และบางส่วนบริษัทมีการเปิดเทรนนิ่ง เพื่ออัพสกีลให้พนักงานเป็นตัวแทนประกันชีวิตได้ ดังนั้นจะมีเพียง 10% หรือ 200 คนเท่านั้นที่ยังไม่มีงานรองรับ