“กองทุนน้ำมัน” ขอ "สภาพัฒน์" ซัพพอร์ตแผนกู้ 2 หมื่นล้าน
“กองทุนน้ำมัน”ขอสศช.หนุนแผนกู้หนุนสภาพคล่อง หลังครม.ไฟเขียวจัดสรรเงินอุดหนุนกรณีฉุกเฉินก้อนแรก 2 หมื่นล้านหวังสถาบันการเงินเชื่อมั่นยอมปล่อยกู้
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ระหว่างทำความเข้าใจกับสถาบันทางการเงินเกี่ยวกับการขอกู้เงินก้อนแรกมูลค่า 20,000 ล้านบาท เพื่อหาเงินมาเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 29 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมามีมติพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สถาบันการเงินที่จะให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามพ.ร.บ.กองทุนมาตรา 6 (2) กรณีที่เงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สนับสนุนแผนการกู้เงินเสริมสภาพคล่องครั้งนี้ เพื่อให้สถาบันทางการเงินเกิดความมั่นใจที่จะปล่อยเงินกู้ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ไม่สามารถค้ำประกันให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ เนื่องจากติดพ.ร.บ.ในเรื่องของวินัยการเงินการคลัง จึงต้องใช้ช่องทางดังกล่าวแทน เบื้องต้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกระทรวงการคลัง ได้เชิญสถาบันทางการเงินเข้ารับฟังข้อมูลภาพรวมสถานะกองทุนฯแล้ว
“แม้ราคาน้ำมันดิบช่วงนี้จะลดลง แต่เราไม่รู้จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า หากเทรนด์สถานการณ์ดีขึ้น เราก็จะยังคงกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องอยู่ตามกำหนดให้สถาบันการเงินยื่นเสนอถึงวันที่ 30 เม.ย. 2565 เพื่อเปิดโอกาสและระยะเวลาในการพิจารณาของแต่ละธนาคาร เพราะจำนวนเงินกู้ถือว่าสูง ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีขั้นตอนในการพิจารณามากพอสมควร”
ส่วนกำหนดการกู้เงินก่อนหน้านี้ที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องขยายระยะเวลาการกู้เงินออกมาจากเดิมวันที่ 31 ม.ค. 2565 เนื่องจากงบการเงินที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะต้องตรวจสอบนั้นยังไม่สมบูรณ์เพราะเป็นช่วงของการปิดงบประมาณตามกำหนดภายใน 60 วัน ทำให้การตรวจสอบครั้งนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ จึงต้องเลื่อนการยื่นแผนการกู้มาเป็นเดือนเม.ย.2565 แทน
สำหรับกระแสเงินสด หรือ Cash flow ของกองทุนฯ ยังมีเงินเหลืออยู่ราว 1.5 หมื่นล้านบาท และยังมีเงินเติมเข้าระบบอย่างต่อเนื่องจึงประเมินว่าเดือนพ.ค.-มิ.ย. 2565 ตัวเลขที่กองทุนที่ติดลบกว่า 3 หมื่นล้านบาท และหนี้ที่เกิดขึ้น ยังมีเวลาชำระคือนได้นานถึง 3 เดือน เหมือนขณะนี้กองทุนใช้บัตรเครดิตที่มีช่วงเวลาให้สามารถดำเนินการบริหารจัดการทางการเงินได้
นายวิศักดิ์ กล่าวว่า หากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลงมาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อยากทำความเข้าใจกับประชาชนว่าราคาน้ำมันดีเซลในช่วงแรกอาจจะไม่ลดลงมาจาก 30 บาทต่อลิตร หรือจะให้ลงมาที่ 25 บาทต่อลิตร ทันทีคงเป็นไปได้ยาก เพราะจะต้องนำเงินมาเติมเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรักษาสถานะทางการเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีเงินเพียงพอไว้ใช้จ่ายในยามวิกฤติ
บทบาทกองทุนฯ ตามเจตนารมณ์คือ เพื่อไม่ให้ราคาสวิงมากเกินไป ถ้าราคาถูกลงมากประชาชนอาจไม่ประหยัด จะเห็นได้จากการเกิดโควิด-19 ช่วงแรก ราคาน้ำมันไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร มีเงินเข้ามากว่า 3 หมื่นล้านบาท กรณีวิกฤติครั้งนี้เพดานกองทุนฯ มี 4 หมื่นล้านบาท และใช้จ่ายเดือนละ 2 หมื่นล้านบาท 2 เดือนก็หมด แต่ตอนนี้เรายังวางใจไม่ได้ จึงเดินหน้ากู้เงินยืนยันว่าจะใช้หนี้ภายใน 3 ปี ส่วนดอกเบี้ยขึ้นอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเป็นผู้กำหนด