โอกาสสำคัญ ลงทุนกับ ‘ผู้นำพลังงานสะอาดจีน’
ช่วงเวลาแห่ง "ความผันผวน" นี้นับเป็นโอกาสสำคัญในการทยอยสะสมการลงทุนใน "กลุ่มพลังงานสะอาด" ของ "จีน" ที่มีความโดดเด่นและเป็นผู้นำของโลกและคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างงดงามในระยะยาว
ท่ามกลางความผันผวนของการลงทุนทั่วโลก กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดยังคงเป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจและเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง นานาประเทศเร่งทุ่มเทงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาการพลิตพลังงานสะอาด และประเทศที่โดดเด่นทั้งในแง่การผลิตและการบริโภคพลังงานสะอาด คือ ประเทศจีน
กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ปัญหาโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ แต่เป้าหมายและทิศทางการแก้ปัญหามีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากมีความตกลงปารีส (Paris Agreement) ที่มีการกำหนดการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างชัดเจนในปี 2020 โดยเน้นไปที่ประเทศที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนรายสำคัญของโลก เช่น จีน และสหรัฐอเมริกา
ทำให้ประเทศเหล่านี้ต้องหันไปใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น และเป็นสาเหตุที่รัฐบาลของประเทศเหล่านี้ต้องทุ่มเทงบประมาณในการเร่งพัฒนาและผลิตพลังงานสะอาดเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้โดยเฉพาะประเทศจีนที่เอาจริงกับการลดการปล่อยคาร์บอนโดยมีการระบุแนวทางไว้อย่างชัดเจนในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้สอดคล้องกับคำมั่นที่ได้ให้ไว้กับสหประชาชาติ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน ฉบับที่ 14 (2021-2025) ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดจนสามารถกล่าวได้ว่า เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯฉบับนี้ โดยมีการตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนต่อ GDP อยู่ที่ 18% ภายในปี 2025 นอกจากนี้ยังวางเป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2060 ซึ่งในการบรรลุเป้าหมายนี้ กำลังการผลิตจากพลังงานนิวเคลียร์ของจีนจะต้องเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 5 เท่า พลังงานลม 12 เท่า และพลังงานแสงอาทิตย์ 70 เท่า และเป็นที่ทราบกันดีว่าหากเป็นข้อกำหนดของรัฐบาลจีนจะมีความจริงจังและเด็ดขาดมากและมีโอกาสที่จะบรรลุได้ตามเป้าหมาย ซึ่งการทุ่มเทบประมาณของจีนในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน
ในปี 2022 ที่ผ่านมา จีนมีการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นมูลค่าราว 5.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการลงทุนในพลังงานสะอาดทั่วโลก และทิ้งห่างจากสหรัฐอเมริกาที่ลงทุนราว 1.41 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ซึ่งเดิมทีจีนเป็นผู้ผลิตพลังงานสะอาดรายใหญ่ที่สุดของโลกอยู่แล้ว แต่นับตั้งแต่จีนให้คำมั่นสัญญาบนเวทีโลกในการลดการปล่อยคาร์บอนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จีนยิ่งเร่งพัฒนาการผลิตพลังงานสะอาดจนทิ้งห่างประเทศอื่นๆอย่างชัดเจน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา จีนสามารถผลิตพลังงานลมได้มากกว่ายุโรปถึง 46% ซึ่งยุโรปเคยครองตำแหน่งเป็นผู้ผลิตพลังงานลมรายใหญ่ของโลกจนกระทั่งถึงปี 2020 ที่ถูกจีนแซงขึ้นมา ในขณะเดียวกันจีนยังคงเร่งผลิตการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2022 การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของจีนเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 27%
นอกจากข้อตกลงจากนานาประเทศที่มุ่งมั่นแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลกจนนำไปสู่การวิจัยและพัฒนาการผลิตพลังงานสะอาดแล้ว ปัญหาวิกฤตพลังงานที่เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้ประเทศต่างๆทุ่มเทงบประมาณเพื่อให้ประเทศตนสามารถผลิตพลังงานสะอาดได้มากเพียงพอกับความต้องการและลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นมาก และอาจกล่าวได้ว่าการให้ความสำคัญกับแหล่งหลังงานสะอาดเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของจีนในการก้าวขึ้นมาเป็นที่หนึ่งบนเวทีโลก
ช่วงเวลาแห่งความผันผวนนี้นับเป็นโอกาสสำคัญในการทยอยสะสมการลงทุนในกลุ่มพลังงานสะอาดของจีนที่มีความโดดเด่นและเป็นผู้นำของโลกและคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างงดงามในระยะยาว
หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งคำถามของท่านมาได้ที่ [email protected] I บทความโดย ศิวกร ทองหล่อ CFP® Wealth Manager