ในยุคปัจจุบัน ธุรกิจ จะเติบโตอย่างไรดี?
ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังมีความอึมครึม ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็มีแต่ความไม่แน่นอน และสามารถพลิกผันได้ตลอด คำถามหนึ่งที่อยู่ในใจผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจทั้งหลายคือ...แล้วจะเติบโตต่อไปอย่างไรดี?
จะตอบคำถามที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ตอบยากนี้ การได้ย้อนกลับสู่พื้นฐานและจุดเริ่มต้นอาจจะเป็นแนวทางหนึ่งในการจะช่วยหาคำตอบที่ต้องการ
ดังนั้น ลองมาพิจารณาถึงแนวคิดพื้นฐานของการเลือกกลยุทธ์ในการเติบโตของธุรกิจ พร้อมทั้งแนวคิดใหม่ๆ ในปัจจุบันกันดู
“กลยุทธ์การเติบโต” เป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจเลือกที่จะใช้เพื่อนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น รายได้ กำไร ยอดขาย ขนาด ลูกค้า ฯลฯ ความท้าทายไม่ใช่การเติบโตแต่เพียงอย่างเดียว
แต่คือทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน กลยุทธ์ที่ใช้ในการเติบโตในอดีต เมื่อเวลาผ่านพ้นไปก็จะไม่ทำให้เติบโตเหมือนเดิม รวมทั้งเมื่อมีการเติบโตเกิดขึ้นก็ไม่พ้นที่จะมีคู่แข่งใหม่เข้ามา
การเลือกกลยุทธ์การเติบโตนั้นคือการเลือกตอบคำถามพื้นฐานสามคำถาม ได้แก่ เติบโตในธุรกิจไหน? (Where?) เติบโตอย่างไร? (What?) และ เติบโตด้วยวิธีการอะไร? (How?)
การเลือกว่าจะเติบโตในธุรกิจไหน ก็มีอยู่สามทางเลือกหลักๆ ได้แก่
1. เติบโตในธุรกิจหลัก หรือ Core Business Growth ที่มุ่งเน้นสินค้า บริการเดิม หรือ ตลาดหลักที่มีอยู่ โดยอาจจะเป็นการออกสินค้ารุ่นใหม่ หรือ บริการใหม่ หรือ ขยายสาขา เป็นต้น
2. เติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หรือ Adjacent Growth ทั้งเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่สัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิม สามารถใช้ทรัพยากรหรือความสามารถบางอย่างร่วมกันได้
เช่น กรณีของ Apple ที่จากคอมพิวเตอร์ สู่โทรศัพท์มือถือ สู่เพลง สู่การชำระเงิน เป็นต้น รวมทั้งเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องในลักษณะของต้นน้ำหรือปลายน้ำ นั้นคือย้อนกลับไปเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ (ต้นน้ำ)
หรือ การทำช่องทางจำหน่ายของตนเอง (ปลายน้ำ) เช่น Netflix ไปผลิตหนังเอง หรือ Disney ออก Disney+ เพื่อเป็นช่องทางเข้าถึงผู้บริโภค เป็นต้น
3. เติบโตสู่ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก หรือ Non-Core Growth ที่ธุรกิจใหม่ที่จะเข้าไปสู่นั้น ไม่สามารถหาความเกี่ยวข้องใดๆ กับธุรกิจหลักเดิม โดยส่วนใหญ่เป็นการเติบโตเนื่องจากมองเห็นโอกาสที่มีอยู่ เช่น ปตท.ที่จากธุรกิจพลังงาน สู่ธุรกิจยาและสุขภาพ เป็นต้น
สำหรับคำถามที่สองคือ จะเติบโตอย่างไร? หรือ What? นั้นก็มีหลากหลายแนวทาง ทั้งแนวคิดแบบดั้งเดิมที่คุ้นเคย
เช่น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าเก่า หรือ การนำผลิตภัณฑ์เดิมไปจับลูกค้าใหม่ หรือ การขยายไปยังต่างประเทศ หรือ การมุ่งเน้นที่ลูกค้ากลุ่มใหม่ เป็นต้น
อย่างไรก็ดีในช่วงหลังก็ได้มีนำแนวคิดใหม่ๆ ทางธุรกิจมาช่วยในการคิดวิธีการในการเติบโต ไม่ว่าจะเป็น การนำดิจิทัลเทคโนโลยี หรือ AI มาใช้ หรือการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต
หรือการมุ่งเน้นที่ลูกค้ามากขึ้น (Customer Centric) โดยทั้งหมดข้างต้นจะช่วยในการเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ดีขึ้น เพิ่มการให้บริการในรูปแบบใหม่ๆ ทำให้ลูกค้าพอใจ กลับมาใช้บริการซ้ำ และบอกต่อไปให้คนอื่นมาใช้บริการ
นอกจากนี้ยังสามารถนำเรื่องของ Business Model ใหม่ๆ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการสร้าง Platform หรือ การสร้าง Ecosytem ก็จะช่วยให้เกิดการเติบโต โดยทำให้ผู้เกี่ยวข้องต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมและเติบโตไปพร้อมๆ กัน หรือ การใช้โมเดล DTC (Direct-to-Consumer) ที่ขายตรงไปยังผู้บริโภค โดยไม่ผ่านคนกลางเหมือนในอดีต เป็นต้น
อีกหนึ่งแนวทางในการคิด คือการจับกระแสแนวโน้มใหม่ๆ และออกสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องของความยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม หรือ เรื่องของความเป็นอยู่ที่ดี (Well Being) ก็เป็นโอกาส ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่
อีกหนึ่งแนวคิด คือการเข้าไปลงทุนในรูปแบบของ Startups ไม่ว่าจะเป็น จากภายในองค์กรเอง เช่น การทำ Innovation Labs หรือ การเข้าไปลงทุนกับ Startups ทั้งโดยตรงและผ่านกองทุนทั้งหลาย
คำถามสุดท้ายคือ จะเติบโตด้วยวิธีการอะไร? หรือ How? มีแนวทางในการตอบอยู่สามทางเลือก นั้นคือ
1. เติบโตด้วยตนเอง หรือ ที่คุ้นในชื่อ Organic
2. เติบโตโดยร่วมพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งผ่านทางรูปแฟรนไชส์หรือการร่วมทุนด้วย
3. เติบโตโดยการเข้าไปซื้อหรือควบรวมกิจการ ซึ่งธุรกิจจะเลือกวิธีการใดนั้นก็ต้องดูที่อีกหลายปัจจัย ทั้งเรื่องเวลา เงินทุน และความพร้อมด้วย
สุดท้ายธุรกิจจะเติบโตอย่างไร ผู้บริหารก็จะต้องเลือกแนวทางที่เหมาะสม และคำถามต่างๆ ก็เป็นเพียงเครื่องนำทางไปสู่คำตอบเท่านั้น
เนื้อหาข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของงานสัมมนา “ถอดรหัสกลยุทธ์ยุคใหม่” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยคณาจารย์ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ถ้าสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ FB: CBSCommerce หรือโทร.สอบถามได้ที่ 022185763-4 ครับ