AWC ปัดร่วมทุน ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ ลุยเปิด ‘เอ-ญ่า’ รูฟท็อปเอ็มไพร์ 18 ก.ย.
จากกระแสข่าวลือว่า บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ยักษ์อสังหาริมทรัพย์เชิงไลฟ์สไตล์เพื่อการท่องเที่ยว บริการ และการพาณิชย์ เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่สนใจเข้าลงทุนพัฒนา 'สถานบันเทิงครบวงจร' (Entertainment Complex)
รวมถึงกระแสข่าว AWC อาจเป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์ของ “ราชตฤณมัยสมาคมฯ” ที่เพิ่งประกาศลุยสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ทุ่มงบ 2 แสนล้านบาท พร้อมภาคเอกชนภายใต้ชื่อกลุ่ม “รอแยล สปอร์ต คอมเพลกซ์” (RSC) มาเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมขับเคลื่อน
“วัลลภา ไตรโสรัส” ทายาทเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี และแม่ทัพใหญ่แห่ง AWC ระบุว่า ณ ตอนนี้ AWC ยังไม่มีแผนจะไปร่วมทุนพัฒนาโครงการ Entertainment Complex ที่มีกาสิโน และไม่ได้ไปร่วมทุนกับโครงการของราชตฤณมัยสมาคมฯ ด้วย เพราะปัจจุบัน AWC มีโครงการที่ต้องเร่งพัฒนาตามแผนงาน (Pipeline) หลายโครงการ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) ระดับโลก ภายใต้โมเดลผนึกความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ต่างๆ เพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ
“โมเดล Entertainment Complex ที่มีกาสิโน อาจจะยังไม่ได้ตรงกับโมเดลหรือคอนเซ็ปต์การลงทุนพัฒนาอสังหาฯของ AWC ซึ่งจะเน้นการลงทุนพัฒนาแอทแทรกชัน เพราะการลงทุนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของ AWC จะเน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ เช่น กลุ่มครอบครัว และกลุ่มเดินทางเชิงธุรกิจมากกว่า ทั้งนี้ไม่ได้เตรียมว่าจะมีกาสิโนในโครงการของเรา เพราะไม่ตรงกับโพสิชันนิง (Positioning) และเดสติเนชัน (Destination) ที่เรากำลังพัฒนา”
วัลลภา เล่าว่า สำหรับหนึ่งในแอทแทรกชันของ AWC อย่างโครงการ “EA” Rooftop at The Empire (เอ-ญ่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์) มูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์รูฟท็อปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ รวม 6 ชั้นกับรูฟท็อปของอาคาร “เอ็มไพร์” บนโลเกชันใจกลางกรุงเทพฯ ย่านสาทร ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 10,000 ตร.ม. รวมพื้นที่รูฟท็อปกลางแจ้งกว่า 2,500 ตร.ม.
นับเป็นแหล่งรวมหลากหลายประสบการณ์ด้านอาหารนานาชาติ อาทิ ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และอิตาเลียน และเครื่องดื่มบนรูฟท็อป มีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 18 ก.ย.นี้ หลังจากนำร่องเปิดให้บริการบางส่วนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว เช่น ร้านกาแฟชื่อดัง “% ARABICA” สาขาที่สูงที่สุดในโลก และได้กลายเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทันทีที่เปิดให้บริการ
“เราต้องการผลักดันให้โครงการ เอ-ญ่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์ เป็นเดสติเนชันระดับโลก นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยต้องแวะสัมผัสประการณ์และเช็กอินที่นี่ ร่วมโปรโมตภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย”
ด้วยจุดขายเป็นเดสติเนชันที่เห็นวิวเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ และคุ้งน้ำเจ้าพระยาทั้งกลางวันและกลางคืนแบบ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “Celebrating The World’s Newest Horizon” น่าจะตอบโจทย์โปรแกรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักเดินทางกลุ่มธุรกิจกับกลุ่มไมซ์ (MICE: ประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) เช่น ชาวเอเชีย ที่ชอบไปเยือนจุดชมวิว แหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ และนิยมใช้โซเชียลมีเดีย โดยคาดว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกว่า 60% เป็นดีมานด์จากชาวต่างชาติ ส่วนอีก 40% เป็นดีมานด์ตลาดในประเทศ และนอกจากไฮไลต์ร้านอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติแล้ว ยังรองรับการจัดงานฟังก์ชันต่างๆ เช่น งานเลี้ยง งานแต่งงาน งานแฟชัน และงานประชุมของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเริ่มมีการจองล่วงหน้าเข้ามาแล้ว
สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนา “เอ็มไพร์” ให้เป็นทั้งอาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไปพร้อมกับการเป็นจุดหมายปลายทางรีเทลไลฟ์สไตล์ระดับโลก เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนไป ด้วยการปรับโมเดลการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เน้นผสมผสานไลฟ์สไตล์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ อาคาร เอ็มไพร์ มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 300,000 ตร.ม. และถือเป็นอาคารที่มีมูลค่าทรัพย์สินขนาดใหญ่ของ AWC ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ 70% ของทั้งอาคาร ตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 90% โดยกว่า 70% ของผู้เช่าทั้งหมดเป็นบริษัทต่างชาติ