‘ไทยเบฟ’ ถ่ายทอดโนวฮาว Inver House ต่อยอด ‘ปราการ’ บุกตลาดโลก

‘ไทยเบฟ’ ถ่ายทอดโนวฮาว Inver House ต่อยอด ‘ปราการ’ บุกตลาดโลก

จากซื้อกิจการ Inver House ไทยเบฟ กลายเป็นเจ้าของโรงกลั่นวิสกี้ 5 แห่ง ในประเทศสกอตแลนด์ และนำมาต่อยอดธุรกิจ ผ่องถ่ายโนว์ฮาว มาสู่การสร้างโรงงานซิงเกิล มอลต์ วิสกี้สัญชาติไทยแบรนด์แรก "ปราการ" พร้อมบุกตลาดโลก โฟกัส 5 ประเทศ ทุ่มลงทุนทำการตลาด

ย้อนไปปี 2549 ก้าวย่างสำคัญของยักษ์เครื่องดื่ม “ไทยเบฟเวอเรจ” ไม่เพียงแปรจากธุรกิจครอบครัวสู่ “มหาชน” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ แต่เป็นปีเดียวกันที่บริษัทเข้าซื้อกิจการโรงกลั่นสุรา Inver House Distillers ในประเทศสกอตแลนด์ ทำให้ “ทุนไทย” กลายเป็นเข้าของโรงกลั่นซิงเกิลมอลต์ สก็อตช์วิสกี้ จำนวน 5 แห่ง

ล่าสุด ไทยเบฟ ประกาศสร้างแบรนด์ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ “ปราการ”(PRAKAAN) แบรนด์ไทยแบรนด์แรกเพื่อเสริมพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำตลาดในประเทศไทย และส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย

ประภากร ทองเทพไพโรจน์ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจสุรา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ แบรนด์แรกของไทยภายใต้ “ปราการ” นับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัท เนื่องจากในส่วนของโรงงานที่ผลิตสินค้า ได้พัฒนาโดยทีมงานคนไทย ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆที่นำมาเข้าใช้ในกระบวนการผลิตวิสกี้ รวมถึงวัตถุดิบในการผลิต ยังนำเข้าจากประเทศสกอตแลนด์ด้วย ส่วนถังบ่มสุรามีการนำเข้าจากสหรัฐ และประเทศสเปน

ทั้งนี้ ในส่วนของโรงงานที่จังหวัดกำแพงเพชร บริษัททุ่มงบลงทุนราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมค่าที่ดิน ได้มีการส่งทีมงานคนไทย 9 คน เดินทางไปศึกษากระบวนการผลิตวิสกี้ที่ Inver House ประเทศสกอตแลนด์ด้วย

สำหรับโรงกลั่นสุรา 1 โรง ใช้ทีมงานเพียง 1 คนก็สามารถดูแลได้ อย่างในประเทศสกอตแลนด์ ส่วนที่ไทยมีทีมงานดูแลประมาณ 12 คน

“เราส่งทีมงานไปเทรนที่ประเทศสกอตแลนด์เป็นปี เพื่อเก็บเกี่ยวองค์ความรู้ ซึ่งโรงกลั่นวิสกี้ Inver House ที่สกอตแลนด์เป็นของไทยเบฟ ได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดเทคนิค การทำงานต่างๆ เพื่อนำมาทำทุกอย่างเองทั้งหมดในไทย ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมาก รวมถึงกระบวนการเก็บบ่มวิสกี้ ซึ่งประเทศไทยมีความร้อนชื้น ต่างจากสกอตแลนด์อากาศหนาว เราจึงต้องใช้อีกวิธีในการเก็บบ่มสุรา สร้างดินล้อม เพื่อทำให้อุณหภูมิเสถียร ซึ่งเป็นความพยายามอย่างมาก และเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจของบริษัท”

ทั้งนี้ โรงงานผลิตสุราที่จังหวัดกำแพงเพชร ถือเป็นโรงงานที่ 2 ของบริษัท โดยโรงงานแห่งนี้นอกจากผลิตซิงเกิลมอลต์ วิสกี้แบรนด์ “ปราการ” แล้ว ยังผลิตวิสกี้เพื่อส่งไปบรรจุที่ประเทศเมียนมา ภายใต้กลุ่ม “แกรนด์ รอยัล กรุ๊ป” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการวิสกี้รายใหญ่สุดในประเทศเมียนมา และไทยเบฟได้เข้าไปถือหุ้น 75%

สำหรับซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ “ปราการ” นอกจากทำตลาดในประเทศไทย บริษัทยังวางเป้าหมายส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยโฟกัส 5 ตลาดหลักที่นิยมดื่มวิสกี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และ ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการลงทุนในการทำตลาดอย่างจริงจัง ส่วนประเทศอื่นๆ หากมีความต้องการสินค้าจะส่งไปจำหน่ายผ่านเครือข่ายของบริษัททั่วโลก แต่จะไม่ได้โฟกัสทุ่มงบการลงทุนด้านการตลาด

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการลงทุนเพื่อขยายคลังสินค้าที่ประเทศนิวซีแลนด์ รองรับธุรกิจสุรา หลังเข้าซื้อกิจการ “Cardrona Distillery” เพื่อการขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังสุราโลกใหม่หรือ New World Spirits

“บริษัทมีการขยายโรงเก็บบ่มสุราที่นิวซีแลนด์ ซึ่งคาดการณ์อีก 2 ปีจะแล้วเสร็จ”

สำหรับภาพรวมผลประกอบการไทยเบฟ ปี 2567 (ปีบัญชี ต.ค.66-ก.ย.67) [บริษัทสร้างยอดขายรวมอยู่ที่ 3.4 แสนล้านบาท เติบโต 2.2% และสร้างกำไรสุทธิรวม 3.52 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 0.6% เมื่อแบ่งตามหมวดหมู่ ยอดขายของสุราอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท เติบโต 0.8% และกำไรสุทธิ 2.13 หมื่นล้านบาท ลดลง 4.6% ส่วนเบียร์ยอดขาย 1.26 แสนล้านบาท เติบโต 2.4% และกำไรสุทธิ 5,221 ล้านบาท เติบโต 3.9% แต่ยอยเชิงปริมาณอยู่ที่ 2,314 ลิตร ลดลง 2 ล้านลิตร จากช่วงเดียวกันปีก่อนยอดขาย 2,316 ล้านลิตร

“เศรษฐกิจมีผลกระทบต่อตลาดสุรา โดยเฉพาะกลุ่มสุราสี ส่วนเบียร์ยอดขายเชิงปริมาณที่ลดลง เกิดขึ้นในตลาดเวียดนาม(SABECO) แต่ยอดขายเบียร์ช้างในไทยมีการเติบโต และส่วนแบ่งตลาดสูสีกับคู่แข่ง”

ที่ผ่านมา ไทยเบฟให้ข้อมูลด้านส่วนแบ่งการตลาดรวม (มาร์เก็ตแชร์) ในตลาดเหล้าสีมีมากถึง 95% ขณะที่สุราขาวหรือเหล้าขาวครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 90%