CSC ปรับประมาณการกำไรปี 65 เพิ่มขึ้น 27% สู่ 283 ลบ. โต 46%YoY จากแนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มที่เร่งขึ้น
กำไรงวด 2Q65 เท่ากับ 72.2 ลบ. +30%YoY -10%QoQ ดีกว่าที่คาดว่าจะโตราว 15%YoY บริษัทรายงานรายได้งวด 2Q65 เท่ากับ 909 ลบ. +29%YoY -1%QoQ โดยรายได้ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าจะโตราว 15%YoY ฟื้นตัวชัดเจนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย
ทำให้ลูกค้าเพิ่มคำสั่งซื้อมากขึ้น แต่หดตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล คล้ายกับยอดผลิตของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในช่วง 2Q65 โต 2.8%YoY -11%QoQ (Figure 1) ขณะที่ %GPM อยู่ที่ระดับ 11.4% อ่อนตัวจาก 2Q64 ที่ระดับ 14.1% เนื่องจากช่วงปีก่อนยังใช้สต็อกวัตถุดิบเก่าในการผลิต แต่ %GPM ใกล้เคียงกับ 1Q65 ที่ระดับ 11.2% หลังจากราคาวัตถุดิบหลักโดยเฉลี่ยเริ่มทรงตัว (อะลูมิเนียม เหล็ก และพลาสติก) -2%YoY -3%QoQ (Figure 3) ขณะที่ %SG&A อยู่ที่ระดับ 9.2% ลดลงจาก 2Q64 ที่ระดับ 10.8% จาก Economies of Scale แต่เพิ่มขึ้นจาก 1Q65 ที่ระดับ 7.5% เนื่องจากไตรมาสก่อนมีค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์พนักงานที่ลดลง ส่งผลให้งวด 2Q65 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 72 ลบ. +30%YoY -10%QoQ โดยช่วง 1H65 มีกำไร 152 ลบ. คิดเป็น 68% ของประมาณกำไรปี 65 เดิมที่ 223 ลบ.
• ปรับประมาณการกำไรปี 65 เพิ่มขึ้น 27% สู่ 283 ลบ. +46%YoY เราปรับประมาณการรายได้ปี 65 เพิ่มขึ้น 14% สู่ 3,730 ลบ. +29%YoY หลังจากรายได้ 1H65 เติบโตกว่าที่คาด ซึ่งคิดเป็น 56% ของประมาณการเดิมที่ 3,267 ลบ. โดยแนวโน้มรายได้มีทิศทางเติบโตดีขึ้นตามอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ฟื้นตัวหลังจากภาครัฐประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้สถานบันเทิง อาทิ ผับ บาร์ และคาราโอเกะ กลับมาเปิดได้ตามปกติ ทำให้แนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์เร่งสูงขึ้น ขณะที่ เราคงสมมติฐาน %GPM ทั้งปี 65 ที่ระดับ 12.5% โดยคาด %GPM ในช่วง 2H65 จะฟื้นดีขึ้นจากช่วง 1H65 ที่ 11.3% ตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบหลักที่เริ่มปรับตัวลง ซึ่งช่วง 3QTD65 ปรับตัวลงเฉลี่ย 24%YoY และ 20%QoQ (Figure 3) ประกอบกับบริษัทมีการปรับเพิ่มราคาขายกับลูกค้าแล้วเพื่อชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้น ส่งผลให้เราปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 65 เพิ่มขึ้น 27% สู่ 283 ลบ. +46%YoY
• คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับเพิ่มราคาเหมาะสมสู่ 65.00 บาท เราปรับเพิ่มราคาเหมาะสม CSC สู่ 65.00 เดิม 51.00 บาท โดยอิง Prospected PE เดิมที่ระดับ 12x (1.5SD + 3Yr.-Avg PE) แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 65 สู่ 5.4 บาท จากเดิมที่ 4.3 บาท เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มที่เร่งตัวขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง โดยราคาหุ้นมีอัพไซต์กว่า 35% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
1) สถานการณ์ COVID-19 ที่ยืดเยื้อ
2) ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
3) สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น
4) ภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุ และอัคคีภัย