กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ ปรับฐานลงตามหุ้นโลก... แนะนำทยอยสะสมช่วงย่อ

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ ปรับฐานลงตามหุ้นโลก... แนะนำทยอยสะสมช่วงย่อ

ตลาดน่าจะปรับลงในระยะสั้น หลังประธาน Fed แสดงท่าทีแข็งกร้าวชัดเจน

ในสัปดาห์ที่แล้ว (22-26 สิงหาคม) ตลาดหุ้นไทยผันผวนพอสมควรแต่ยังขยับขึ้นได้ในแบบ sideways up ซึ่งดีกว่าที่เราคาดเอาไว้ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ตลาดหุ้นพักตัวตามตลาดหุ้นโลก ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์จากข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนมูลค่า 1.1 ล้านล้านหยวน รวมถึงกระแสเงินทุนจากต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง และภาวะตลาดที่เป็นบวกในกลุ่มธนาคารหลังจากที่ SCB* ยกเลิกดีลซื้อหุ้น Bitkub

 

สำหรับในสัปดาห์นี้ (29 สิงหาคม – 2 กันยายน) เราคาดว่าดัชนี SET จะลดลงก่อน เพราะจะได้รับผลกระทบจากปาฐกถาของนาย Jerome Powell ประธาน Fed ในการประชุมประจำปีที่ Jackson Hole เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งได้แสดงท่าที hawkish โดยนาย Powell กล่าวว่า i) การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อและการดึงให้อัตราเงินเฟ้อกลับเข้ามาอยู่ภายในเป้าหมายระยะยาวที่ 2% ยังคงเป็นเรื่องที่ Fed ให้ความสำคัญสูงสุดข และ ii) เศรษฐกิจอาจจะได้ต้องทนรับผลกระทบทางลบเพิ่มอีกในช่วงที่สหรัฐใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้น ดังนั้น เราจึงคาดว่าหุ้นเอเชียจะอยู่ในโหมด risk-off ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม จากประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการท่องเที่ยว เราจึงเชื่อว่าดัชนี SET มี downside จำกัด นอกจากนี้ สหรัฐยังรายงานว่าตัวเลข core PCE เดือนกรกฎาคมชะลอตัวลงเหลือ 4.6%YoY ซึ่งต่ำกว่า consensus ที่ 4.7% YoY และเป็นการยืนยันว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า Fed Fund Futures ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักหลังปาฐกถาของนาย Powell โดยในตลาด Futures ยังคงให้น้ำหนักความน่าจะเป็นที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ในเดือนกันยายนที่ 60%

 

 

 

 

ปัจจัยภายนอกจะมีอิทธิพลกับตลาดมากขึ้น ติดตามปาฐกถาของผู้บริหาร Fed และ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ปัจจัยภายในประเทศ 

ตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคจาก ธปท. จะเป็นปัจจัยสำคัญที่น่าสนใจ โดย ธปท.จะเผยแพร่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนกรกฎาคมออกมาในวันที่ 31สิงหาคม ซึ่งเราคาดว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจภายในประเทศที่สำคัญอย่างเช่น ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน, รายได้ภาคเกษตร และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง YoY

 

ปัจจัยภายนอก

ผู้บริหาร Fed มีกำหนดกล่าวปาฐกถาอีก และจะมีกำหนดการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งหลังจากที่นาย Powell ทำให้ตลาดมีท่าทีระมัดระวังต่อทิศทางของ Fed ไปแล้ว (อย่างน้อยในระยะสั้น) นักลงทุนน่าจะจับตาปาฐกถาจากผู้บริหาร Fed รายอื่น ๆ ที่จะตามมา โดยผู้ว่าการ Fed สาขาต่าง ๆ มีกำหนดจะทยอยกันออกมากล่าวปาฐกถาทุกวันในสัปดาห์นี้ ในขณะที่การเปิดเผยตัวเลข ISM ภาคการผลิตเดือนสิงหาคม และรายงานการจ้างงานรายเดือน จะเป็นข้อมูล
เศรษฐกิจสำคัญสำหรับสัปดาห์นี้

 

ตลาดหุ้นน่าจะปรับฐานเพียงไม่นาน มองทางลงจำกัดและแนะนำซื้อสะสม

แม้ว่านาย Powell จะออกมาพูดในเชิง hawkish แต่เรามองว่าแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงและ ภาวะเศรษฐกิจที่จะอ่อนแอลงอย่างมากในช่วงต่อไปจะทำให้จังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ชะลอลงใน 4Q65 และในปี 2566 ซึ่งเมื่อประกอบกับมุมมองของเราต่อแนวโน้มการแข็งค่าของ THB  ในระยะกลาง น่าจะทำให้มีกระแสเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น และช่วยจำกัด downside ของตลาด

เราแนะนำให้นักลงทุนสะสมหุ้นในธีมการลงทุนที่เราชอบ อย่างเช่น

  • ธนาคาร (KBANK*, KTB*)
  • หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว (AOT*, CPALL*)
  • หุ้นในธีมการเปิดประเทศ (BEM*, CPN*, CRC*, PTG*)
  • หุ้นบางตัวในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อย่างเช่น BANPU*