ต่างชาติแห่ร่วมทุนลุยแนวราบ โตคิวมั่นใจอสังหาฯ รีบาวด์!
เทรนด์การอยู่อาศัยปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจโครงการแนวราบมากกว่า ส่งผลให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติหันมาลงทุนโครงการแนวราบด้วยการร่วมทุนกับดีเวลลอปเปอร์ไทยระหว่างที่ตลาดคอนโดชะลอตัว เพราะมั่นใจอสังหาฯรีบาวด์! อีกครั้ง
สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ขณะที่เทรนด์การอยู่อาศัยปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจโครงการแนวราบมากกว่า ส่งผลให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติหันมาลงทุนโครงการแนวราบมากขึ้น และเน้นร่วมทุนกับพันธมิตรดีเวลลอปเปอร์ไทย ไม่ว่าจะ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมทุน ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป ลงทุนโครงการเสนา เวล่า, ออริจิ้น ร่วมทุน โลฟิสจากฮ่องกง เปิดตัวโครงการบ้านจัดสรร บริทาเนีย อมตะ-พานทอง และ เพอร์เฟค ร่วมทุน ฮ่องกง แลนด์ พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์
ทากายูกิ มัตสึโมโตะ ผู้จัดการอาวุโส โตคิว คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา โตคิว คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมทุนกับ แสนสิริ พัฒนาคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ ทากะ เฮาส์, เดอะเบส สุขุมวิท 50 และเอ็กซ์ที เอกมัย 2 โครงการแรกขายหมดแล้วส่วน เอ็กซ์ที เอกมัย ยอดขาย 90% ดังนั้นจึงนำเงินที่ได้มาลงทุนร่วมกับแสนสิริโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ท บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา เป็นครั้งแรก!
จุดแข็งของแบรนด์แสนสิริในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่โดดเด่นด้านคุณภาพ การออกแบบ ฟังก์ชั่น บริการหลังการขาย และด้วยศักยภาพของทำเลกรุงเทพกรีฑาที่คล้ายคลึงกับการขยายตัวของชุมชนที่อยู่อาศัยหลายย่านในโตเกียว ซึ่งแต่ละย่านต่างมีกลิ่นอายและบรรยากาศความเป็นชุมชนเมืองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ย่านชิบูย่า ย่านฟุทาโกะทามางาวะ ย่านทามะพลาซ่า ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นตามแนวเส้นทางรถไฟสายเดนเนนโทชิ ของโตคิว
“ย่านกรุงเทพกรีฑา คล้ายคลึงกับย่านชุมชนข้างสถานีทามะพลาซ่า ในฐานะที่เป็นย่านที่พักอาศัยชานเมืองคุณภาพสูงที่ตั้งอยู่ในโตคิว ทามะ การ์เดน ซิตี้ ใจกลางเมืองโตเกียว ถือเป็นรูปแบบการขยายเมืองจากใจกลางชั้นในไปสู่เขตเมืองชั้นนอก โดยสร้างเป็นกลุ่มเมืองตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยรายล้อมครบครัน”
มั่นใจโครงการบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา จะได้รับการตอบรับที่ดี เป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบและชุมชนแห่งการพักอาศัยระดับอินเตอร์เนชั่นแนล
นอกจากนี้ โตคิว คอร์ปอเรชั่น ยังได้ร่วมลงทุนกับสหพัฒน์เปิดตัวโครงการ HarmoniQ ที่อยู่อาศัยในศรีราชา รองรับดีมานด์ลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่มาอาศัยอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) ของไทย ปล่อยเช่าเฉลี่ยเดือนละ 80,000-90,000 บาท เฟสแรกมี 180 ยูนิต ปีที่ผ่านมาเพิ่มอีก 32 ยูนิต เป็นบ้านขนาด 4 ห้องนอน แต่หลังโควิด-19 อัตราการเช่าลดลงเหลือ 60-90% เนื่องจากคนญี่ปุ่นที่มาทำงานไม่ได้พาครอบครับมาด้วย
“แม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่โครงสร้างเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพและแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี คาดการณ์ว่าภาคอสังหาฯ ไทยจะรีบาวน์กลับมาอีกครั้ง โตคิว คอร์ปอเรชั่น จึงเตรียมพร้อมลงทุนต่อเนื่อง โดยมีแผนที่ขยายโครงการปล่อยเช่าจำนวน 109 ยูนิต รองรับคนญี่ปุ่นที่กลับมาทำงานในอีอีซี และโครงการร่วมทุนกับแสนสิริในอนาคต”
ทางด้าน อาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง แสนสิริวางแผนเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีเพิ่มอีก 4 แบรนด์ บน 5 ทำเล มูลค่าโครงการรวม 19,000 ล้านบาท
นำร่องบ้านเดี่ยวบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา สไตล์รีสอร์ท มูลค่า 4,800 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนพัฒนาแนวราบระหว่างแสนสิริ และโตคิว คอร์ปอเรชั่น กลุ่มบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีธุรกิจหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การคมนาคมขนส่ง อสังหาฯ ไลฟ์สไตล์และบริการ โรงแรมและรีสอร์ท
โครงการตั้งอยู่บนทำเล “กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้” ชุมชนที่พักอาศัยระดับอินเตอร์เนชั่นแนลแห่งใหม่ของแสนสิริบนพื้นที่ 500 ไร่ ล่าสุดทำยอดขายแล้ว 80% ของทุกยูนิตในเฟสแรก มูลค่ารวม 1,640 ล้านบาท สะท้อนการตอบโจทย์ผู้ซื้อบ้านยุคใหม่ ซึ่ง "บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา" จะเป็นหนึ่งโครงการสำคัญผลักดันให้แสนสิริบรรลุเป้ายอดขายโครงการแนวราบที่ 24,000 ล้านบาท และปิดยอดขายรวมที่ 35,000 ล้านบาทในปี 2565
“เชื่อว่าการร่วมทุนมีผลดึงกลุ่มคนญี่ปุ่นเข้ามาเป็นลูกค้ามากขึ้นจากเดิมที่เป็นคนจีน ยุโรป”
สำหรับยอดขายแนวราบ 7 เดือนแรกของปี 2565 สูงถึง 18,600 ล้านบาท คิดเป็น 77% ของเป้ายอดขายโครงการแนวราบ 24,000 ล้านบาทในปีนี้ และ 54% จากยอดขายรวมบริษัท 35,000 ล้านบาท โดยยอดขายส่วนใหญ่ของแนวราบมาจากโครงการระดับบน 54% มูลค่ารวม 10,200 ล้านบาท มีไฮไลต์สำคัญ เช่น นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา สร้างยอดขาย 80% ตั้งแต่ยังไม่เปิดโครงการ ขณะที่ เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และบุราสิริ บึงหนองโคตร ขอนแก่น ปิดการขาย 100%