ดีมานด์คอนโดทำเลอีอีซี-มหาวิทยาลัยมาแรง
ไนท์แฟรงค์ ชี้ครึ่งปีหลังผู้ประกอบการอสังหาฯหันไปพัฒนาโครงการคอนโดชานเมืองโดยเฉพาะทำเลบางนา-ตราด ดีมานด์กลุ่มลูกค้าExpatโซนอีอีซี คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยมาแรง คาดผลจากขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ กระทบกำลังซื้อที่อยู่อาศัยชะลอตัว
นายณัฎฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มในครึ่งปีหลังนี้ผู้ประกอบการอสังหาฯจะทยอยเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงพัฒนาโครงการแนวสูงและโครงการแนวราบควบคู่กันไป โดยปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้การพัฒนาคอนโดมิเนียมที่กลับมาเติบโตอีกครั้ง ในส่วนของทำเลในการพัฒนาโครงการในเขตกรุงเทพฯ จะพบว่าเริ่มน้อยลงและหายากมากขึ้น
หากแต่เป็นที่ดินในบริเวณที่มีโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อไปยังฝั่งตะวันออก หรือที่ดินที่อยู่ในบริเวณที่เป็นชานเมืองและมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้ารวมถึงพื้นที่ใกล้ทางด่วนที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต แม้จะอยู่ในเขตชานเมืองกรุงเทพฯ แต่ถ้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้เข้าถึงก็จะส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยตามมา
ซึ่งที่ดินที่มีศักยภาพดังกล่าวในปัจจุบันได้มีการดันราคาสูงขึ้น และอาจจะส่งผลให้การแข่งของผู้พัฒนาโครงการมีมากเพราะต้องแบกรับภาระต้นทุนหลายทาง ทำให้ต้องปรับราคาขายต่อห้องเพิ่มขึ้นซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของอสังหาฯ
โดยเฉพาะโซนบางนา ตราด จะมีโครงการคอนโดที่เปิดขายจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่ต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่ทำงานย่านนั้น รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติที่มาทำงานในเมืองไทยหรือExpat ในโซนอีอีซี ซึ่งเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ตลาดคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยกลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจในการพัฒนาโครงการ เพราะมีดีมานด์จากกลุ่มนักศึกษาที่เข้าไปซื้อหรือเช่า รวมทั้งกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า
แต่จากการประกาศของขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อของแบงก์ชาติ อาจจะทำให้ผู้ที่จะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมนั้นได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะกู้ได้ในวงเงินที่ลดลงสวนทางกับราคาขายของที่อยู่อาศัยที่สูง เนื่องจากการปรับขึ้นของดอกเบี้ยจะทำให้ผู้กู้ต้องแบกภาระการจ่ายต่องวดเพิ่มขึ้น อาจจะส่งผลทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยชะลอตัวรวมถึงทำให้ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ติดลบในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้ออย่างจำกัด (Affordable )
อย่างไรก็ดีภาครัฐบาลก็ให้ความสำคัญและพยายามหามาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการลดค่าโอนและค่าจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยในสามล้านบาทแรกส่วนเกินคิดเป็นอัตราปกติที่ 2% ซึ่งเพดานราคาที่เท่าไหร่ยังคงต้องคอยติดตามมาตราการดังกล่าวต่อไป
รวมถึงมาตรการผ่อนปรน LTV ที่จะมีการขยายมาตราการไปโดยจากเดิมที่จะสิ้นสุดในปลายปี 2565 แต่อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มผู้ซื้อในประเทศในช่วงเวลานี้ โดยมาตรการดังกล่าวจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศเพื่อให้ตลาดอสังหาฯ ขับเคลื่อนไปต่อได้ในระหว่างที่รอชาวต่างชาติให้กลับเข้ามาในประเทศได้เต็มรูปแบบ เพราะความหวังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภาคอสังหาฯ คือกำลังซื้อของชาวต่างชาติ อันจะส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มที่กลับมา