ครม.ปรับแผนสู้คดี ‘คิงส์เกต’ ใช้เงินสู้คดีเฉียด 800 ล้าน
ครม.ขยายกรอบเวลาคดีเหมืองทองอัครากรณีพิพาทบริษัทคิงส์เกตฯ จากเดิมที่วางกรอบไว้ในปี 60 - 64 เป็น 60 - 66 หลังจากอนุญาโตฯเลื่อนพิจารณาคดี วงเงินใช้สู้คดียังกำหนดไว้เท่าเดิมเกือบๆ 800 ล้านบาท
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอขอทบทวนปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับ บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด
โดยสาระสำคัญคือกระทรวงอุตสาหกรรมได้นำเสนอ ครม.ว่าตามที่ ครม.เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 63 เห็นชอบเพิ่มกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับ บริษัท คิงส์เกต คอนโชลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 – 2561 จากเดิมที่ขอวงเงิน 731.13 ล้านบาท โดย ครม.ในครั้งนั้นได้เพิ่มวงเงินให้เป็น 796.67 ล้านบาท
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศไทย กับบริษัท คิงส์เกต ในช่วงที่ผ่านมามีความคืบหน้า
ซึ่งได้รายงานให้ ครม.รับทราบแล้วเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยล่าสุด คณะอนุญาโตตุลาการได้เลื่อนการออกคำชี้ขาดไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายอยู่ในระหว่างการเจรจาแก้ไขปัญหาข้อพิพาท เป็นผลให้การใช้จ่ายในกระบวนการอนุญาโตตุลาการชะลอลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ยังคงมีค่าใช้จ่ายบางส่วนเกิด เช่น ค่าใช้จ่ายในการประชุมคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ค่าใช้จ่ายในการให้คำปรึกษาแนะนำของที่ปรึกษากฎหมายฝ่ายไทย เป็นต้น ทำให้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอปรับปรุงนระยะเวลาให้สอดคล้องกับการทำงานในเรื่องนี้